"ก็สมควรแล้ว อยู่ๆไปพูดแบบนั้นกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันได้ยังไง"เคียวซึมิพูดโดยที่มือยังคนกินเนื้อของกวางที่อาวีย์เป็นคนหามาให้
"ขอบพระคุณมากขอรับ เจ้าชายอาวีย์ที่ช่วยกระผมไว้"
"อืม ไม่มีปัญหาหรอก ว่าแต่...ผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งทรอยแมร์ที่หายไปจริงๆเหรอ"อาวีย์กระซิบถามกับนาวิเสียงเบา(แต่ผมได้ยินอยู่นะ)
"ม...ไม่ผิดแน่ขอรับ แหวนวงศ์นั้นคือเครื่องยืนยันได้ขอรับ"นาวิพูดแล่้วเหล่ตามองไปทางเคียวซึมิที่กำลังกินน่องขากวางย่างอย่างกล้าๆกลัวๆ
อาวีย์ที่ได้ยินแบบนั้นจึงหันไปกลับไปมองสำรวจรูปร่างหน้าตาและท่าทางของเคียวซึมิอีกครั้งอย่างพิจารณา
"อืม...หน้าตาน่ารักใช่ย่ิอยเหมือนกันนะ ข้าชักจะหลงรักนางแล้วสิ..."
"เฮ้ย! เจ้าทำอะไรของเจ้ากันน่ะ"อาวีย์หันกลับมาโวยวายผมด้วยใบหน้าแดงๆทันทีที่ผมเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขาเมื่อกี้...ผู้ชายอะไรเนี่ย น่ารักชะมัดเลย
"ก็พูดสิ่งที่ท่านคิดอยู่ในหัวเมื่อกี้ไงล่ะขอรับเจ้าชาย ก็เข้าใจอยู่หรอกนะ ว่าเพื่อนของผมเป็นคนรูปร่างหน้าตาน่ารัก(แค่หน้าตาน่ะนะ เรื่องรสนิยมนี้อีกเรื่อง) แต่ว่า ขอบอกไว้เลยนะว่่าเขามีคนที่ชอบแล้วน่ะ"ผมพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ(พยายามกลั้นขำ) อาวีย์ที่ได้ยินแบบนั้นจึงเผลอพูดขึ้นเสียงดัง
"อะไรนะ! นางมีคนรักแล้วเหรอ เอ๊ย!ไม่ใช่นะ ข...ข้าไม่ได้หลงรักนางอย่างที่เจ้าพูดนะ"
"หืม...หน้าแดงใหญ่เลยนะขอรับองค์ชาย...ถ้าท่านมาอยู่ไต้ร่างของผม ท่านจะทำหน้าน่ารักๆแบบนี้ให้ผมเห็นรึเปล่านะ"ผมพูดด้วยยน้ำที่ที่กดให้ทุ้มต่ำลงเล็กน้อย พร้อมกับเอื้อมมือไปเชยคคางของเขาขึ้นเพื่อที่จะได้เห็นใยหน้าน่ารักๆนั่นได้ชัดยิ่งขึ้น
"อ...อ...อ..."อาวีย์ที่หน้าแดงจนแทบจะเป็นสีเดียวกับสีผมของตัวเองอยู่แล้ว ปากของเขาอ้าพะงาบๆอย่างคนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกับเด็กน้อยที่โดนจับได้ว่าทำความผิดมา หึหึหึ...แกล้งสนุกชะมัด
"ยูโซ พอกินอิ่มแล้วก็แผลงฤทธิ์เลยนะ อย่าไปแกล้งเขามากสิ น่าสงสารออก"เสียงเคียวซึมิพูดขึ้นขัดจังหวะ ผมหันไปมองทางเธอที่ตอนนี้ทำท่าจะกินอิ่มแล้ว(กว่าจะอิ่มนะ)จึงเดินมาทางที่พวกผมนั่งอยู่
"เนี่ย ดูสิ นายแกล้งเขาจะเขาจะร้องไห้อยู่แล้วนะ น่าสงสารออก"เคียวซึมินั่งชันเขาที่ตรงหน้าของอาวีย์ ก่อนจะยื่นมือไปลูบที่เส้นผมสีแดงนั่นอย่างอ่อนโยน...อาวีย์หลับตาลงเพื่อซึมซับสัมผัสเหล่านั่น
"โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะเด็กดีๆ...อยากมาเป็นลูกบุญธรรมของฉันกับเจฟมั้ย(^^)"เจ้พูดด้วยใบหน้ายิ้มใสซื่อ
"ห๊ะ!?"(O{}O)<<<หน้าอาวีย์
(O.O)<<<หน้านาวิ
(=_=)<<<หน้าของผม
"เหอะๆ เจ้ก็เหมือนผมแหละ เจอคนหน้าตาน่ารักหน่อยไม่ได้ ขอเป็นลูกหมด"
"อะไรยะ มีปัญหาเรอะ"
"อ่า...ป ป่าวจ้า...(^^:)"ใครเล่าจะกล้าหือกับนาง ได้โดนสามีนางฆ่าน่ะสิ
50%
เดี๋ยวมาต่อให้วันหลังนะครับ^^
ต่อ
อื่ม...ถ้าจำไม่ผิด หลังจากที่เราได้เจอกับอาวีย์ เดี๋ยวก็ต้องเจอกับลูคเจ้าชายพเนจรกับเจ้าชาย เอ่อ...เมดี้เจ้าชายคลั่งศิลปะอีกสินะ แล้วก็...ปิศาจกินฝัน ต้องเจ้สินะ
ผมเดินไปหาเคียวซึมิที่นั่งเหม่ออยู่ไต้ต้นไปเงียบๆ ก่อนจะค่อยๆนั่งลงข้างๆเธอช้าๆ
"เคียวซึมิคิดอะไรอยู่เหรอ..."ผมหันไปถามเธอเสียงเบา เคียวซึมิหันมามองผมเล็กน้อย
"ก็กำลังคิดว่า เราจะหาทางกลับกันได้มั้ย?น่ะนะ"
"หืม..เจ้คิดถึงโลกนู้นเหรอ ทำไมล่ะ?"ทุกทีเห็นว่าเกลียดโลกนู้นจะตายนี้นา
"ก็นะ ที่นี้มันไม่มีการ์ตูนให้ดู ไม่มีนิยายให้อ่าน แถมฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับเจฟมาตั้งนานแล้วนะ เขาจะโกรธฉันมั้ยนะ"เคียวซึมิพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
"อ...เอ่ม เจ้ครับ ผมว่าไม่เจอเจฟบ่อยๆก็ดีนะ จะได้พิสูจน์ความรักของพวกเจ้ไง เนอะ^^"เปล่าหรอก ไม้ใช่ผมห่วงความรักของเจ้กับเจฟหรอกนะ แต่ผมกลัวสามีเจ้อ่ะ(T^T)
"อืม นั้นสินะ ขืนเจอกันบ่อยๆแล้วเขาเบื่อฉันขึ้นมา ฉันก็คงฆ่าเขาทิ้งให้ตายอีกครั้งก่อนจะฆ่าตัวเองตายตามเขาไป ทีนี้ เราก็ได้อยู่ก้วยกันแล้ว"เธอพูดโดยใบหน้หน้ารักนั้นเริ่มมีรอยยิ้มประดับขึ้นมาจางๆ
ฮือๆๆๆเจ้ เจ้จิตขึ้นเยอะเลยนะ ผมกลัวเจ้อ่าคร้าบบบบบบ...(TT{}TT)ขนาดผมหลงรักแอล เดธโน้ธขนาดไหนผมยังไม่ฝักไฝ่หาเขาขนาดเจ้เลยนะ
"องค์หญิงขอรับ ท่านยูโซแย่แล้วขอรับ!!"
ขณะที่ผมกำลังถูกรังสีโรคจิตของเคียวซึมิโจมตีจนแทบขยับตัวไม่ได้ อยู่เสียงนาวิก็ร้องเรียกดังขึ้นพร้อมกับร่างน้อยๆปุกปุยของเขาวิ่งมาด้วยกันกับอาวีย์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดสุดๆ
"หืม เกิดอะไรขึ้นเหรอมื้อเย็นคุง เอ๊ย นาวิ อาวีย์ด้วย ทำหน้าเครียดเชียว"เคียวซึมิหันไปถามทั้งสองด้วยใบหน้าสงสัย
อืม ท่่าทางแบบนี้ หรือว่า
"ปิศาจกินฝันงั้นเหรอ"ผมพูดขึ้นเสียงเบา
"กระผมสัมผัสได้ถึงปิศาจกินฝันขอรับ"นาวิพูดเสียงดัง
นั่นไงล่ะ ทำไมตอนหมุนกาชาผมไม่ทายแม่นได้แบบนี้มั่งนะ
"แล้วพวกนายเลยอยากของพลังความฝันของเคียวซึมิ เพื่อไปใช้เพิ่มพลังโจมตีพวกปิศาจกินฝันสินะ"ผมพูดขัดขึ้นก่อนนาวิจะพูดจบ ทั้งเจ้ นาวิ แลล้วก็อาวีย์มองมาทางผมอย่างแปลกใจ
"อะ อืม ใช่ขอรับ เราต้องการพลังแห่งความฝันและความหวังขององค์หญิง เพื่อไปใช้ทำลายพวกปิศาจกินฝันขอรับ เพื่อให้โลกของเราได้กลับคืนสู่ความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ได้โปรด มอบพลังให้กับเหล่าเจ้าชาย มอบพลังให้กับอาณาจักรนี้ด้วยเถอะขอรับองค์หญิง!"นาวิคุกเข่าขอร้องมาทางเคียวซึมิที่ยยังคงทำหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับปัญหาโลกที่กำลังจะแตกนี้
"..."
"ฉันขอก็ร้องด้วยอีกคนนะ"อาวีย์พูดขอร้องอีกคนพร้อมกับเดินมายืนตรงหน้าของเคียวซึมิ ก่อนจะก้มหัวลงให้กับเธอ...
"เจ้ครับ..."ผมมองไปทางเจ้ด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออก
"ขอโทษนะ"เคียวซึมิค่อยๆก้มหน้าลงแล้วพูดเสียงสั่นๆจนแทบฟังไม่ออก"ขอโทษ แต่ว่าฉัน...ไม่มีหรอก ของแบบนั้น ทั้งความฝัน ความหวัง ฉันไม่มีหรอก"
"พูดว่าไงนะ!! เฮ้ย!ปิศาจกินฝันมันมากันแล้ว!!!"อาวีย์ร้องขึ้นเสียงสูง ก่อนจะหันขวับไปทางด้านหลังที่มีเจ้าปิศาจกินฝัน(?)ฝูงหนึ่งกำลังบุกเข้ามาทางที่พวกเราอยู่
"โธ่เว้ย"อาวีย์สบถก่อนจะดึงดาบขนาดใหญ่ของเขาออกมาแล้ววิ่งเข้าไปฟาดฟันดาบใส่เจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดรูปร่างเหมือนควัญสีดำทีจับตัวกับเป็นรูปร่างที่แตกต่างกันมีทั้งใหญ่และเล็กกระจายตัวล้อมพวกเราเอาไว้ทั้งหมด
ฉับ ฉั๊วะ ผลั๊ก!
อาวีย์ยังคงฟันไปที่ร่างของพวกปิศาจกินฝัน แต่ไม่ว่าจะฟันกี่ครั้ง มันก็สามรถรวมตัวจับกันเป็นรูปร่างเดิมและเข้าโจมตีมาทางพวกเราไม่หยุด
"โอ้ย!เจ็บนะเเจ้าพวกบ้านี้!"ผมสบถเสียงดังอย่างหงุดหงิด โดยที่ในอ้อมแขนของผมก็มีร่างของเคียวซึมิอยู่ด้วย ผมดึงร่างเธอหลบไปมา แล้วพยายามใช้ร่างของตัวเองป้องกันการโจมตีเหล่านั้นไปด้วย
"องค์หญิงได้โปรดเถอะขอรับ นึกให้ออกที ความฝันอะไรก็ได้ ความหวังอะไรก็ได้!"นาวิตะโกนขอร้องเคียวซึมิโดยมือเขาเกะแยู่ที่ผ้าพันคอของผม
"โว๊ย!!! เงียบปากไปเลย ถ้าไม่เงียบ ทันทีที่รอดไปได้นะ ฉันจะจับแกกินแน่ไอ้ตัวประหลาด!!!"
"เราไม่รอดแน่ ไม่ได้กลับแน่..."เคียวซึมิพึมพำอยู่ตรงอกของผม ผมรู้ดีน่าว่าเราไม่รอดแน่ เพราะเคียวซึมิไม่เหมือนกับเจ้าหญิงแห่งทรอยแมร์ในเกมส์สักนิดเดียว เธอชบพูดกับผมว่า...
'ความฝันงั้นเหรอ ไม่มีหรอกเพราะเธอจะอยู่กับปัจจุบันอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นมันก็ต้องเกิด ความหวังงั้นเหรอ จะมีไปทำไม ถ้าอย่ากได้อะไรเราก็ต้องทำให้มันเป็นจริงได้ด้วยมือเราเองสิ ไม่มีหรอกที่ว่าถ้าเราตั้งใจ จะมีคนมาหยิบยื่นให้น่ะ เรื่องแบบนั้น มันไม่มีจริงหรอก'
แต่ผมไม่ยอมตายหรอก และไม่ยอมให้เธอตายด้วย ผมจะต้องทำให้เจ้าชายทั้งหมดในเกมส์นี้ มาเป็นเด็กในฮาเร็มของผมให้ได้ แล้วจะต้องทำให้เคียวซึมิเห็นด้วย!!!!
"เคียวซึมิ เจ้าหัวชมพู ระวัง!!!"
ผมหันไปมองตามทางที่อาวีย์ตะโกน ก็เห็นเจ้าปิศาจกินฝันตัวโคตรใหญ่ พุ่งตรงมาทางพวกเราอย่างรวดเร็ว
"หนอย ถ้าฉันยังไม่ได้สร้าง'ฮาเร็มเจ้าชายของหนุ่มวายชื่อยูโซ'ละก็ ฉันไม่ยอมตายง่ายๆหรอกเฟ้ย!!!!!"
(=_=)<<<หน้าเคียวซึมิ
(oAO)<<<หน้านาวิ
(T[]T)<<<หน้าอาวีย์(นายคือเจ้าชายคนแรกที่จะมาอยู่ในฮาเร็มของฉัน)
ผมกอดเอวของเคียวซึมิให้แน่นขึ้น ก่อนจะหมุนตัวแล้วกระโดดหมุนตัวเตะไปกลางแสกหน้าของเจ้าปิศาจนั่นต็มแรงจนมันปลิวไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้โค่นลงไปทับที่ร่างปิศาจกินฝันตัวเล็กๆซ้ำ
แฮ่ กร๊าซซซซ อ๊ากกกกกกก
โผล๊ะ!!!!
เจ้าปิศาจที่ถูกผมเตะไป อยู่ๆก็กรีดร้องขึ้นก่อนจะดิ้นทุรนทุรายก่อนที่ตัวของมันจะค่อยๆส่องแสงที่ขาวแล้วบวมขึ้น บวมขึ้นจนกระทั่งแตกกระจายออกเป็นสะเก็ดแสงกระจายไปรอบบริเวณ
"เอ๋ นี้มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ"ผมพูดขึ้นงงๆ
"หรือว่า...เจ้าหญิงแบ่งเอาพลังความฝันและควมหวังอันแรงกล้า(เรื่องจะตั้งฮาเร็ม)ของท่านยูโซมาแปลงเป็นพลังของท่าน ทำให้ท่านยูโซสามารถโจมตีปิศาจกินฝันได้"นาวิพูดขึ้นอย่างดีใจ
"นี้ นาวิ ภาษาคนกด1นะ ฉันไม่เข้าใจ"ผมหันไปถามนาวิด้วยใบหน้าที่งงยิ่งกว่าเดิม แต่คนที่ตอบผมกลับเป็นเคียวซึมิที่อยู่ในอ้อมแขนของผม
"มันก็แปลว่า ฉันสามรถเอาความหวังและความฝันของนาย ทำให้เป็นพลังของตัวเองได้ไงล่ะ..."เคียวซึมิพูดนิ่งๆ แต่ผมสังเกตเห็นประกายในดวงตาของเธอ...เธอกำลังดีใจ...
"ไม่มีเวลามาคุยแล้ว เคียวซึมิ เจ้าหัวชมพู ไม่สิ ยูโซ ส่งพลังของพวกนายมาให้ฉันที"อาวีย์ตะโกนมาทางพวกเรา ผมหันไปมองทางเขาก็เห็นพวกปิศาจกินฝันอีกผู้กำลังวิ่งมาทางเรา
"งั้นก็ เจ้ครับ"ผมหันไปพูดกับเคียวซึมิก่อนจะยกมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมากุมไว้ แล้วหลับตาลง
"อืม"เคียวซึมิพยักหน้ารับ แล้วค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับผม
แสงสว่างค่อยๆส่องออกมาจากแหวนที่นิ้วเรียวงามของหญิงสาวร่างเล็ก แล้วแสงนั้นก็ยังคงสว่างขึ้นเรื่อยๆจนทำให้บริเวณรอบด้านถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวอบอุ่น ก่อนที่มันจะค่อยๆควบแน่นไปรวมอยู่ที่ร่างของเจ้าชายมสีแดงเพลิงเป็นจุดเดียว
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ย๊ากกกกกก!!!!"อาวีย์พูดอย่างฮึกเหิมพร้อมกับวิ่งเข้าไปฟันไปทางพวกปิศาจกินฝัน
กร้าซซซซซซ!!!!!
อ๊ากกกกกกกก!!!!!
แฮ่!!!!!
เสียงกรีดร้องของปิศาจกินฝันดังระงมไปทั่วป่า ก่อนที่ร่างของพวกมันทั้งหมดจะแตกกระจายเป็นประกายแสง และค่อยๆปลิวไปตามลม...
"สำเร็จแล้วนะ"ผมพูดขึ้นแล้วมองไปทางเตียวซึมิ อาวีย์ และนาวิ
"ใช่ สำเร็จแล้ว"เคียวซึมิพูดเสียงเรียบๆแบบปกติ แต่มุมปากที่เคยเรียบสนิทของเธอกระตุกขึ้นเล็กน้อยจนถ้าหากไม่สังเกตให้ดี คงมองไม่ห็นแน่ๆ
"ผมไม่นึกเลยว่าจะมีวิธีนี้อยู่ด้วย สุดยอดไปเลยขอรับองค์หญิง ท่านยูโซ"นาวิกระโดดเหยงๆไปมาอย่างดีใจสุดๆ
"ฮึ...สุดยอดจริงๆนั่นแหละ พลังของพวกเธอ ฉันคงต้องดูนายใหม่ซะแล้วสิ เจ้าหัวชมพู"ประโยคแรกอาวีย์พูดกับเคียวซึมิ ส่วนประโยคหลังเขาหับมาพูดกับผมด้วยใบหน้าที่แระดับไปด้วยรอยยิ้มเจิดจ้าสุดๆ....
หมับ!
"อาวีย์ มาเป็นแฟนเค้าเถอะ"
"ห้ะ!!!(O[]O)x3"
เสียงสามเสียงร้องขึ้นพร้อมกันทันทีที่ผมไปกุมมือของอาวีย์มาแนบอกแล้วขอเขาเป็นแฟน
"นะ นะ นะ สัญญาเลยว่าจะเป็นแฟนที่ดี จะอ่อนโยน จะใจดี ไม่ไม่ทำให้นายเจ็บ(?)เด็ดขาด เป็นแฟนกันนะ จุ๊บ!!"ผมพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นกว่าเดิม ก่อนจะฉวยหอมแก้มนิ่มๆหอมๆเกินชายปกติของอาวีย์ไปหนึ่งฟอด เรียกให้ใบหน้าที่เคยขาวนวลของอาวีย์กลายเป็นสีแดงราวกับมะเขือเทศสด
"หนอย ไอ้หัวชมพูงี่เง่าเอ๊ย!!!!"อาวีย์พูดเสียงดังพร้อมกับง้างหมัดขึ้นแล้วหมัดนั้นก็พุ่งตรงเข้ามากลางปากผมอย่างแรก
ผลั๊วะ!!!!
"แอ๊ก!!!"
"ยูโซ!/ท่านยูโซ!!!"
งือ...จะจีบหนุ่มหน้าสวยต้องอดทน...โดนต่อยฟันหล่น เลือดกรบปากต้องไม่ตาย....ฮือ ฮือ....(TT[]TT)
ผมจะจีบเจ้าชายได้ครบทุกคนมั้ยนะ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น