วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

สองเกรียนป่วนเกมส์ ตอนที่4 ออกเดินทางไปด้วยกัน

 "งือ...ไม่เห็นต้องต่อยผมเลยนี้นาอาวีย์คุง ใจร้ายชะมัด"ผมพูดอย่างน้อยใจ โดยใช้มือลูบแก้มด้านซ้ายของตัวเองโดนคนตรงหน้าต่อยจนเป็นรอยแดง เจ็บชะมัดเลย...
     "ก็สมควรแล้ว อยู่ๆไปพูดแบบนั้นกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันได้ยังไง"เคียวซึมิพูดโดยที่มือยังคนกินเนื้อของกวางที่อาวีย์เป็นคนหามาให้
     "ขอบพระคุณมากขอรับ เจ้าชายอาวีย์ที่ช่วยกระผมไว้"
     "อืม ไม่มีปัญหาหรอก ว่าแต่...ผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งทรอยแมร์ที่หายไปจริงๆเหรอ"อาวีย์กระซิบถามกับนาวิเสียงเบา(แต่ผมได้ยินอยู่นะ)
     "ม...ไม่ผิดแน่ขอรับ แหวนวงศ์นั้นคือเครื่องยืนยันได้ขอรับ"นาวิพูดแล่้วเหล่ตามองไปทางเคียวซึมิที่กำลังกินน่องขากวางย่างอย่างกล้าๆกลัวๆ
     อาวีย์ที่ได้ยินแบบนั้นจึงหันไปกลับไปมองสำรวจรูปร่างหน้าตาและท่าทางของเคียวซึมิอีกครั้งอย่างพิจารณา
     "อืม...หน้าตาน่ารักใช่ย่ิอยเหมือนกันนะ ข้าชักจะหลงรักนางแล้วสิ..."
     "เฮ้ย! เจ้าทำอะไรของเจ้ากันน่ะ"อาวีย์หันกลับมาโวยวายผมด้วยใบหน้าแดงๆทันทีที่ผมเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขาเมื่อกี้...ผู้ชายอะไรเนี่ย น่ารักชะมัดเลย
     "ก็พูดสิ่งที่ท่านคิดอยู่ในหัวเมื่อกี้ไงล่ะขอรับเจ้าชาย ก็เข้าใจอยู่หรอกนะ ว่าเพื่อนของผมเป็นคนรูปร่างหน้าตาน่ารัก(แค่หน้าตาน่ะนะ เรื่องรสนิยมนี้อีกเรื่อง) แต่ว่า ขอบอกไว้เลยนะว่่าเขามีคนที่ชอบแล้วน่ะ"ผมพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ(พยายามกลั้นขำ) อาวีย์ที่ได้ยินแบบนั้นจึงเผลอพูดขึ้นเสียงดัง
     "อะไรนะ! นางมีคนรักแล้วเหรอ เอ๊ย!ไม่ใช่นะ ข...ข้าไม่ได้หลงรักนางอย่างที่เจ้าพูดนะ"
     "หืม...หน้าแดงใหญ่เลยนะขอรับองค์ชาย...ถ้าท่านมาอยู่ไต้ร่างของผม ท่านจะทำหน้าน่ารักๆแบบนี้ให้ผมเห็นรึเปล่านะ"ผมพูดด้วยยน้ำที่ที่กดให้ทุ้มต่ำลงเล็กน้อย พร้อมกับเอื้อมมือไปเชยคคางของเขาขึ้นเพื่อที่จะได้เห็นใยหน้าน่ารักๆนั่นได้ชัดยิ่งขึ้น
     "อ...อ...อ..."อาวีย์ที่หน้าแดงจนแทบจะเป็นสีเดียวกับสีผมของตัวเองอยู่แล้ว ปากของเขาอ้าพะงาบๆอย่างคนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกับเด็กน้อยที่โดนจับได้ว่าทำความผิดมา หึหึหึ...แกล้งสนุกชะมัด
     
     "ยูโซ พอกินอิ่มแล้วก็แผลงฤทธิ์เลยนะ อย่าไปแกล้งเขามากสิ น่าสงสารออก"เสียงเคียวซึมิพูดขึ้นขัดจังหวะ ผมหันไปมองทางเธอที่ตอนนี้ทำท่าจะกินอิ่มแล้ว(กว่าจะอิ่มนะ)จึงเดินมาทางที่พวกผมนั่งอยู่
     "เนี่ย ดูสิ นายแกล้งเขาจะเขาจะร้องไห้อยู่แล้วนะ น่าสงสารออก"เคียวซึมินั่งชันเขาที่ตรงหน้าของอาวีย์ ก่อนจะยื่นมือไปลูบที่เส้นผมสีแดงนั่นอย่างอ่อนโยน...อาวีย์หลับตาลงเพื่อซึมซับสัมผัสเหล่านั่น
     

     "โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะเด็กดีๆ...อยากมาเป็นลูกบุญธรรมของฉันกับเจฟมั้ย(^^)"เจ้พูดด้วยใบหน้ายิ้มใสซื่อ
     "ห๊ะ!?"(O{}O)<<<หน้าอาวีย์
     (O.O)<<<หน้านาวิ
     (=_=)<<<หน้าของผม

     "เหอะๆ เจ้ก็เหมือนผมแหละ เจอคนหน้าตาน่ารักหน่อยไม่ได้ ขอเป็นลูกหมด"
     "อะไรยะ มีปัญหาเรอะ"
     "อ่า...ป ป่าวจ้า...(^^:)"ใครเล่าจะกล้าหือกับนาง ได้โดนสามีนางฆ่าน่ะสิ



50%
เดี๋ยวมาต่อให้วันหลังนะครับ^^

ต่อ




     อื่ม...ถ้าจำไม่ผิด หลังจากที่เราได้เจอกับอาวีย์ เดี๋ยวก็ต้องเจอกับลูคเจ้าชายพเนจรกับเจ้าชาย เอ่อ...เมดี้เจ้าชายคลั่งศิลปะอีกสินะ แล้วก็...ปิศาจกินฝัน ต้องเจ้สินะ
     ผมเดินไปหาเคียวซึมิที่นั่งเหม่ออยู่ไต้ต้นไปเงียบๆ ก่อนจะค่อยๆนั่งลงข้างๆเธอช้าๆ
     "เคียวซึมิคิดอะไรอยู่เหรอ..."ผมหันไปถามเธอเสียงเบา เคียวซึมิหันมามองผมเล็กน้อย
     "ก็กำลังคิดว่า เราจะหาทางกลับกันได้มั้ย?น่ะนะ"
     "หืม..เจ้คิดถึงโลกนู้นเหรอ ทำไมล่ะ?"ทุกทีเห็นว่าเกลียดโลกนู้นจะตายนี้นา 
     "ก็นะ ที่นี้มันไม่มีการ์ตูนให้ดู ไม่มีนิยายให้อ่าน แถมฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับเจฟมาตั้งนานแล้วนะ เขาจะโกรธฉันมั้ยนะ"เคียวซึมิพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
     "อ...เอ่ม เจ้ครับ ผมว่าไม่เจอเจฟบ่อยๆก็ดีนะ จะได้พิสูจน์ความรักของพวกเจ้ไง เนอะ^^"เปล่าหรอก ไม้ใช่ผมห่วงความรักของเจ้กับเจฟหรอกนะ แต่ผมกลัวสามีเจ้อ่ะ(T^T)
     "อืม นั้นสินะ ขืนเจอกันบ่อยๆแล้วเขาเบื่อฉันขึ้นมา ฉันก็คงฆ่าเขาทิ้งให้ตายอีกครั้งก่อนจะฆ่าตัวเองตายตามเขาไป ทีนี้ เราก็ได้อยู่ก้วยกันแล้ว"เธอพูดโดยใบหน้หน้ารักนั้นเริ่มมีรอยยิ้มประดับขึ้นมาจางๆ
     ฮือๆๆๆเจ้ เจ้จิตขึ้นเยอะเลยนะ ผมกลัวเจ้อ่าคร้าบบบบบบ...(TT{}TT)ขนาดผมหลงรักแอล เดธโน้ธขนาดไหนผมยังไม่ฝักไฝ่หาเขาขนาดเจ้เลยนะ
     



     "องค์หญิงขอรับ ท่านยูโซแย่แล้วขอรับ!!"
     ขณะที่ผมกำลังถูกรังสีโรคจิตของเคียวซึมิโจมตีจนแทบขยับตัวไม่ได้ อยู่เสียงนาวิก็ร้องเรียกดังขึ้นพร้อมกับร่างน้อยๆปุกปุยของเขาวิ่งมาด้วยกันกับอาวีย์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดสุดๆ
     "หืม เกิดอะไรขึ้นเหรอมื้อเย็นคุง เอ๊ย นาวิ อาวีย์ด้วย ทำหน้าเครียดเชียว"เคียวซึมิหันไปถามทั้งสองด้วยใบหน้าสงสัย
     อืม ท่่าทางแบบนี้ หรือว่า
     "ปิศาจกินฝันงั้นเหรอ"ผมพูดขึ้นเสียงเบา
     "กระผมสัมผัสได้ถึงปิศาจกินฝันขอรับ"นาวิพูดเสียงดัง 
     นั่นไงล่ะ ทำไมตอนหมุนกาชาผมไม่ทายแม่นได้แบบนี้มั่งนะ 
     "แล้วพวกนายเลยอยากของพลังความฝันของเคียวซึมิ เพื่อไปใช้เพิ่มพลังโจมตีพวกปิศาจกินฝันสินะ"ผมพูดขัดขึ้นก่อนนาวิจะพูดจบ ทั้งเจ้ นาวิ แลล้วก็อาวีย์มองมาทางผมอย่างแปลกใจ
     "อะ อืม ใช่ขอรับ เราต้องการพลังแห่งความฝันและความหวังขององค์หญิง เพื่อไปใช้ทำลายพวกปิศาจกินฝันขอรับ เพื่อให้โลกของเราได้กลับคืนสู่ความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ได้โปรด มอบพลังให้กับเหล่าเจ้าชาย มอบพลังให้กับอาณาจักรนี้ด้วยเถอะขอรับองค์หญิง!"นาวิคุกเข่าขอร้องมาทางเคียวซึมิที่ยยังคงทำหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับปัญหาโลกที่กำลังจะแตกนี้
     "..."
     "ฉันขอก็ร้องด้วยอีกคนนะ"อาวีย์พูดขอร้องอีกคนพร้อมกับเดินมายืนตรงหน้าของเคียวซึมิ ก่อนจะก้มหัวลงให้กับเธอ...
     "เจ้ครับ..."ผมมองไปทางเจ้ด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออก
     "ขอโทษนะ"เคียวซึมิค่อยๆก้มหน้าลงแล้วพูดเสียงสั่นๆจนแทบฟังไม่ออก"ขอโทษ แต่ว่าฉัน...ไม่มีหรอก ของแบบนั้น ทั้งความฝัน ความหวัง ฉันไม่มีหรอก"
     "พูดว่าไงนะ!! เฮ้ย!ปิศาจกินฝันมันมากันแล้ว!!!"อาวีย์ร้องขึ้นเสียงสูง ก่อนจะหันขวับไปทางด้านหลังที่มีเจ้าปิศาจกินฝัน(?)ฝูงหนึ่งกำลังบุกเข้ามาทางที่พวกเราอยู่
     "โธ่เว้ย"อาวีย์สบถก่อนจะดึงดาบขนาดใหญ่ของเขาออกมาแล้ววิ่งเข้าไปฟาดฟันดาบใส่เจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดรูปร่างเหมือนควัญสีดำทีจับตัวกับเป็นรูปร่างที่แตกต่างกันมีทั้งใหญ่และเล็กกระจายตัวล้อมพวกเราเอาไว้ทั้งหมด




     ฉับ ฉั๊วะ ผลั๊ก!
     อาวีย์ยังคงฟันไปที่ร่างของพวกปิศาจกินฝัน แต่ไม่ว่าจะฟันกี่ครั้ง มันก็สามรถรวมตัวจับกันเป็นรูปร่างเดิมและเข้าโจมตีมาทางพวกเราไม่หยุด
     "โอ้ย!เจ็บนะเเจ้าพวกบ้านี้!"ผมสบถเสียงดังอย่างหงุดหงิด โดยที่ในอ้อมแขนของผมก็มีร่างของเคียวซึมิอยู่ด้วย ผมดึงร่างเธอหลบไปมา แล้วพยายามใช้ร่างของตัวเองป้องกันการโจมตีเหล่านั้นไปด้วย 
     "องค์หญิงได้โปรดเถอะขอรับ นึกให้ออกที ความฝันอะไรก็ได้ ความหวังอะไรก็ได้!"นาวิตะโกนขอร้องเคียวซึมิโดยมือเขาเกะแยู่ที่ผ้าพันคอของผม
     "โว๊ย!!! เงียบปากไปเลย ถ้าไม่เงียบ ทันทีที่รอดไปได้นะ ฉันจะจับแกกินแน่ไอ้ตัวประหลาด!!!"
     "เราไม่รอดแน่ ไม่ได้กลับแน่..."เคียวซึมิพึมพำอยู่ตรงอกของผม ผมรู้ดีน่าว่าเราไม่รอดแน่ เพราะเคียวซึมิไม่เหมือนกับเจ้าหญิงแห่งทรอยแมร์ในเกมส์สักนิดเดียว เธอชบพูดกับผมว่า...
    

      'ความฝันงั้นเหรอ ไม่มีหรอกเพราะเธอจะอยู่กับปัจจุบันอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นมันก็ต้องเกิด ความหวังงั้นเหรอ จะมีไปทำไม ถ้าอย่ากได้อะไรเราก็ต้องทำให้มันเป็นจริงได้ด้วยมือเราเองสิ ไม่มีหรอกที่ว่าถ้าเราตั้งใจ จะมีคนมาหยิบยื่นให้น่ะ เรื่องแบบนั้น มันไม่มีจริงหรอก'


     แต่ผมไม่ยอมตายหรอก และไม่ยอมให้เธอตายด้วย ผมจะต้องทำให้เจ้าชายทั้งหมดในเกมส์นี้ มาเป็นเด็กในฮาเร็มของผมให้ได้ แล้วจะต้องทำให้เคียวซึมิเห็นด้วย!!!!
     "เคียวซึมิ เจ้าหัวชมพู ระวัง!!!"
     ผมหันไปมองตามทางที่อาวีย์ตะโกน ก็เห็นเจ้าปิศาจกินฝันตัวโคตรใหญ่ พุ่งตรงมาทางพวกเราอย่างรวดเร็ว
     "หนอย ถ้าฉันยังไม่ได้สร้าง'ฮาเร็มเจ้าชายของหนุ่มวายชื่อยูโซ'ละก็ ฉันไม่ยอมตายง่ายๆหรอกเฟ้ย!!!!!"
     (=_=)<<<หน้าเคียวซึมิ
     (oAO)<<<หน้านาวิ
     (T[]T)<<<หน้าอาวีย์(นายคือเจ้าชายคนแรกที่จะมาอยู่ในฮาเร็มของฉัน)
     ผมกอดเอวของเคียวซึมิให้แน่นขึ้น ก่อนจะหมุนตัวแล้วกระโดดหมุนตัวเตะไปกลางแสกหน้าของเจ้าปิศาจนั่นต็มแรงจนมันปลิวไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้โค่นลงไปทับที่ร่างปิศาจกินฝันตัวเล็กๆซ้ำ
     



     แฮ่ กร๊าซซซซ อ๊ากกกกกกก 
     

     โผล๊ะ!!!!


     เจ้าปิศาจที่ถูกผมเตะไป อยู่ๆก็กรีดร้องขึ้นก่อนจะดิ้นทุรนทุรายก่อนที่ตัวของมันจะค่อยๆส่องแสงที่ขาวแล้วบวมขึ้น บวมขึ้นจนกระทั่งแตกกระจายออกเป็นสะเก็ดแสงกระจายไปรอบบริเวณ
     "เอ๋ นี้มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ"ผมพูดขึ้นงงๆ
     "หรือว่า...เจ้าหญิงแบ่งเอาพลังความฝันและควมหวังอันแรงกล้า(เรื่องจะตั้งฮาเร็ม)ของท่านยูโซมาแปลงเป็นพลังของท่าน ทำให้ท่านยูโซสามารถโจมตีปิศาจกินฝันได้"นาวิพูดขึ้นอย่างดีใจ
     "นี้ นาวิ ภาษาคนกด1นะ ฉันไม่เข้าใจ"ผมหันไปถามนาวิด้วยใบหน้าที่งงยิ่งกว่าเดิม แต่คนที่ตอบผมกลับเป็นเคียวซึมิที่อยู่ในอ้อมแขนของผม
     "มันก็แปลว่า ฉันสามรถเอาความหวังและความฝันของนาย ทำให้เป็นพลังของตัวเองได้ไงล่ะ..."เคียวซึมิพูดนิ่งๆ แต่ผมสังเกตเห็นประกายในดวงตาของเธอ...เธอกำลังดีใจ...
     "ไม่มีเวลามาคุยแล้ว เคียวซึมิ เจ้าหัวชมพู ไม่สิ ยูโซ ส่งพลังของพวกนายมาให้ฉันที"อาวีย์ตะโกนมาทางพวกเรา ผมหันไปมองทางเขาก็เห็นพวกปิศาจกินฝันอีกผู้กำลังวิ่งมาทางเรา
     "งั้นก็ เจ้ครับ"ผมหันไปพูดกับเคียวซึมิก่อนจะยกมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมากุมไว้ แล้วหลับตาลง
     "อืม"เคียวซึมิพยักหน้ารับ แล้วค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับผม







     


     แสงสว่างค่อยๆส่องออกมาจากแหวนที่นิ้วเรียวงามของหญิงสาวร่างเล็ก แล้วแสงนั้นก็ยังคงสว่างขึ้นเรื่อยๆจนทำให้บริเวณรอบด้านถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวอบอุ่น ก่อนที่มันจะค่อยๆควบแน่นไปรวมอยู่ที่ร่างของเจ้าชายมสีแดงเพลิงเป็นจุดเดียว
    

      "ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ย๊ากกกกกก!!!!"อาวีย์พูดอย่างฮึกเหิมพร้อมกับวิ่งเข้าไปฟันไปทางพวกปิศาจกินฝัน
     กร้าซซซซซซ!!!!!
     อ๊ากกกกกกกก!!!!!
     แฮ่!!!!!
     เสียงกรีดร้องของปิศาจกินฝันดังระงมไปทั่วป่า ก่อนที่ร่างของพวกมันทั้งหมดจะแตกกระจายเป็นประกายแสง และค่อยๆปลิวไปตามลม...






     "สำเร็จแล้วนะ"ผมพูดขึ้นแล้วมองไปทางเตียวซึมิ อาวีย์ และนาวิ
     "ใช่ สำเร็จแล้ว"เคียวซึมิพูดเสียงเรียบๆแบบปกติ แต่มุมปากที่เคยเรียบสนิทของเธอกระตุกขึ้นเล็กน้อยจนถ้าหากไม่สังเกตให้ดี คงมองไม่ห็นแน่ๆ
     "ผมไม่นึกเลยว่าจะมีวิธีนี้อยู่ด้วย สุดยอดไปเลยขอรับองค์หญิง ท่านยูโซ"นาวิกระโดดเหยงๆไปมาอย่างดีใจสุดๆ
     "ฮึ...สุดยอดจริงๆนั่นแหละ พลังของพวกเธอ ฉันคงต้องดูนายใหม่ซะแล้วสิ เจ้าหัวชมพู"ประโยคแรกอาวีย์พูดกับเคียวซึมิ ส่วนประโยคหลังเขาหับมาพูดกับผมด้วยใบหน้าที่แระดับไปด้วยรอยยิ้มเจิดจ้าสุดๆ....
     หมับ!
     "อาวีย์ มาเป็นแฟนเค้าเถอะ"
     "ห้ะ!!!(O[]O)x3"
     เสียงสามเสียงร้องขึ้นพร้อมกันทันทีที่ผมไปกุมมือของอาวีย์มาแนบอกแล้วขอเขาเป็นแฟน
     "นะ นะ นะ สัญญาเลยว่าจะเป็นแฟนที่ดี จะอ่อนโยน จะใจดี ไม่ไม่ทำให้นายเจ็บ(?)เด็ดขาด เป็นแฟนกันนะ จุ๊บ!!"ผมพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นกว่าเดิม ก่อนจะฉวยหอมแก้มนิ่มๆหอมๆเกินชายปกติของอาวีย์ไปหนึ่งฟอด เรียกให้ใบหน้าที่เคยขาวนวลของอาวีย์กลายเป็นสีแดงราวกับมะเขือเทศสด
     "หนอย ไอ้หัวชมพูงี่เง่าเอ๊ย!!!!"อาวีย์พูดเสียงดังพร้อมกับง้างหมัดขึ้นแล้วหมัดนั้นก็พุ่งตรงเข้ามากลางปากผมอย่างแรก
     ผลั๊วะ!!!!
     "แอ๊ก!!!"
     "ยูโซ!/ท่านยูโซ!!!"




     งือ...จะจีบหนุ่มหน้าสวยต้องอดทน...โดนต่อยฟันหล่น เลือดกรบปากต้องไม่ตาย....ฮือ ฮือ....(TT[]TT)
     









     ผมจะจีบเจ้าชายได้ครบทุกคนมั้ยนะ....
     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น