วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

fic Do xxx Now!! (yaoi) อัณณ์/สิตา

***ขอบอกว่ามันเป็นการจินตนาการและจิ้นที่เวิ่นเว้อของกระผมเอง ของย้ำมันไม่ได้เกี่ยวกับเนื่้อเรื่องจริง





ณ คฤหาสนีรพันธ์
     ที่คฤหาสทรงไทยโบราณตั้งแต่ยุคยุค ร.๕แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ภายนอกก็ดูเหมือนบ้านเรือนไทยโบราณขนาดใหญ่ของเศรษฐีธรรมดาๆที่ทำให้ผู้คนพบเห็นสบายตา สบายใจได้กํบความสงบและงดงานแบบปราณีตของศิลปะวิจิตรตระกาลตาแบบไทยโบราณของมัน
     แต่ภายใน ใครเล่าจะรู้ได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมตัวของทายาทตระกูลสัตว์เทพ ที่ปกปักษ์รักษาคนไทยมาตั้งแต่อดีตกาล
     


     โครม!!
     "นู้นไง! อยู่ตรงนั้น ดับไปซะ พลังไฟ!!!"
     ฟู่!!!!
     ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองยุ่งฟูดูเซอร์ๆแต่งตัวคล้ายพวกเด็กแว้นของต่างประเทศ ร้องตระโกนขึ้นแล้วกางปีกเพลิงของเขา บินไล่ตามดวงวิญญาณ พร้อมปล่อยลูกไฟออกมาจากฝ่ามือเป็นจำนวนมาก ดวงวิญญาณที่สัมผัสถูกลูกไฟนั้น ต่างก็มอดไหม้และสลายหายไปตามๆกัน เขาเป็นทายาทตระกูลครุฑ ผู้มีนิสัยใจร้อนราวกับไฟ เหมือนกับพลังของตระกูลของเขา เขามีชื่อว่า'สิตา'

     "เบาๆหน่อยสิ สิตา เดี๋ยวสวนก็เละหรอก~"ร่างโปร่งใส หรือเรียกว่าร่างจิตของ'ไอยรา'คุณชายผู้มีร่างกายอ่อนแอของตระกูล คชสาร ผู้มีพลังในการควบคุมดิน พูดขึ้นอย่างปลงๆกับสิตาผู้บ้าระห่ำ(ร่างจริงของไอยราอยู่ในคฤหาส)ด้วยร่างกายที่อ่อนแอและขี้โรคแบบนี้ ทำให้ตอนทำภารกิจ ไอยราจะเลือกใช้ร่างจิตของตัวเองมากกว่าใช้ร่างจริงของตัวเอง
     "พูดไปเถอพไอยรา เจ้าติ๊งต๊องนั้นไม่ฟังหรอก"เด็กชายตัวน้อยหน้าตาน่ารัก...แต่ปากสุนัขเรียกพี่ พูดขึ้น(แอ่ก!โดนกรงเล็บ)เขามีชื่อว่า'ธาวิน'คุณหนูทายาทตระกูลสิงห์ ผู้ใช้พลังลมพูดขึ้นแล้วมองสิตาด้วยสายตาเหยียดๆ
     "หนอย จะหาเรื่องเหรอไอ้เด็กปากเสีย!"สิตาหันมาโวยวาย
     "ได้อยู่แล้วครุฑขนร่วง!!"

     "พลังเยือกแข็ง...จงไปสู่สุคติซะ"เสียงเรียบนิ่งพุดขึ้น โดยที่ตรงฝ่ามือของเขามีดวงวิญญาณที่ได้รับการชำระล้างและไปสู่สุคติอยู่
     ชายหนุ่มผมสีดำยาวระต้นคอ ใส่แว่นกลอบสี่่เหลี่ยม สวมชุดสูทดูดีมีชาติตระกูล บุคลิกของเขาแตกต่างกับสิตาดดยสิ้นเชิง(มาดเท่ห์อีกต่างหาก)ชายหนุ่มสุดเนียบคนนี้ชื่อ'อัณณ์'เป็นคุณชายทายาทตระกุลนาค และเป็นเจ้าของคฤหาสนีรพันธ์แห่งนี้อีกด้วย 
     ตระกูลนาคและตระกูลครุฑต่างก็เป็นอริกันมาตั้งแต่อดี่ตกาล ถึงแม้ยุคปัจจุบันเรื่องนี่ก็ยังไม่เปลี่ยน ทำให้สิตารุ้สึกหมั่นไส้อัณณ์สุดๆ




     "เฮ่อ...เหนื่อยจังเลย มีนาขอน้ำเย็นหน่อยสิ"ทันทีที่เข้ามาในคฟหาสสิตาก็ทิ้งตัวลงนั่งไปที่โซฟาหรูแล้วเรียกหญิงสาวชุดเมดสุดแสนโมเอะให้มาเสริฟน้ำ เธอคือ'มีนา'หญิงสาวที่ตายและกลายมาเป็นภูตรับใช้ของพวกเขาทั้ง4คน
     "รอเดี๋ยวนะสิตา เดี๋ยวไปหยิบมาให้"ภูตสาวหายเข้าไปในกำแพง แล้วโผล่พรวดมาตรงหน้าของของสิตาโดยมีแก้วน้ำเย็นอยู่มนมือ
     "แต้งกิ้ว ฮ่า~สดชื่นนน..."ชายหนุ่มกระดกน้ำรวดเดียวหมดแก้ว เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ ขณะที่เขากำลังหันไปคุยกับมีนานั่นเอง
     "มีนา"อัณณ์ที่เพิ่งเดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเรียกภูตสาว เธอหันกลับไปมองผู้เรียกแล้วเดินไปหาอัณณ์ โดยมีสายตาไม่พอใจของสิตามองพวกเขาอยู่
     ทำไงได้ล่ะ คนมันชอบไปแล้วนี่หว่า ถึงมีนาจะชอบเจ้าขี้เก๊กนั่นก็เหอะ'
     สิตาลุกขึ้นขึ้นจากโซฟาแล้วเดินออกจากห้องโถงไปเงียบๆ โดยมีสายตาของอัณณ์มองตามสิตาไปนิ่งๆโดยสิตาไม่สังเกตเลย 

     


     สิตาเดินขึ้นมาบนห้องของเขาที่อยู่ชั้น2ของคฤหาส ขณะที่สิตากำลังเปิดประตูนั่นเอง...
     "หืม อ๊ากกกกกก!!!!"
     

     เสียงร้องของสิตาดังลั่นไปทั่วทั้งคฤหาสเรียกความสนใจของทุกคนให้มองไปทางห้องของสิตาที่ชั้น2อย่างรวดเร็ว
     อัณณ์รีบวิ่งขึ้นบันไดแล้วพังประตูห้องของสิตาเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วภาพในห้องของสิตาที่อัณณ์เห็นตรงหน้าก็ทำให้อัณณ์รู้สึกร่างกายของเขาถูกน้ำเย็นสาดอย่างแรง
     
     ภาพของสิตานอนคว่ำอยู่กลางห้อง รอบๆตัวของสิตาเต็มไปด้วยซากขนและเศษชิ้นเนื้อของปีกเปื้อนเลือดกระจายเต็มไปทั่วห้อง กลิ่นคาวคละคลุ้งของเลือดฟุ้งไปทัวห้องฉุนจมูกจนอัณณ์และคนอื่นๆที่ตามมาทีหลังต้องกลั้นหายใจอย่างรวดเร็ว
     อัณณ์วิ่งเข้าไปจับร่างของสิตาให้หงายขึ้น แล้วเขาก็ต้องตะลึงยิ่งว่าเดิม ร่างตรงหน้านั้นตาเหลืกเบิกกว้าง เลือดสดๆมากมายไหลทะลักออกจากปากแผลตรงหน้าอกเปรอะไปทั่วทั้งร่างของเขา เมื่ออัณณ์ยกมือขึ้นอังที่จมูกของร่างโปร่ง ก็ไร้ซึ่งสัญญาณตอบกลับมา
     สิตา ตายแล้ว...
     







     ณ คฤหาสกุลรักตปักษ์ ของตระกูลครุฑ
     ชายร่่างใหญ่แบกร่างสูงโปร่งของสิตาไว้นไหล่ แล้วเดินมาที่ห้องโถงกลางของคฤหาส 
     ตรงกลางห้องโถง มีชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงนั่งหันหลังอยู่ที่เก้าอี้ให้กับพวกเขา
     "เป็นไง"เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นจากชายผมแดงตรงหน้า
     "ได้ตัวกลับมาแล้วขอรับ ท่านเจ้าบ้าน"ชายร่างยักษ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ก่อนที่เขาจะวางร่างของสิตาไว้ที่โซฟาด้านหลังเก้าอี้ที่ชายผมแดงนั่งอยู่
     ชายผมแดงค่อยๆหมุนเก้าอี้แล้วหันมาทางโซฟาที่มีร่างของสิตานอนหลับตพริ้มอยู่บนนั่น ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นฟันเรียงสวย พร้อมพูดอย่างยินดี
     "ในที่สุดก็ได้เจอกันซักทีนะ สิตา"
     พูดจบ นิ้วมือของสิตาก็กระตุกเล็กน้อย เปลือกตายค่อยๆขยับเปิดขึ้นช้าๆแล้วกระพริบสองสามครั้งเพื่อให้การมองเห็นเข้าที่ สิตากวาดตามองไปรอบๆ แล้วสายตาของของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับชายผมแดงที่กำลังมองมาทางเขายิ้มๆ
     สิตามองคนตรงหน้าที่มีใบหน้าเหมือนกับเขาราวกับเขากำลังส่องกระจกยกเว้นสีผมที่แตกต่างกันด้วยความตกตะลึง ก่อนที่สิตาจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นฉีกยิ้มกว้างแล้วพูดขึ้นด้วยความดีใจสุดๆ
     "ไง'ทิวา' กลับมาแล้วเหรอ"
     'ทิวา'พี่ชายฝาแฝดของสิตา เป็นลูกคนแรกของผู้นำตระกูลครุฑที่ควรจะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลคนต่อไปสิ งั้นแล้วทำไมเป็นสิตาล่ะ
     





     10ปีที่แล้ว
     'ทิวา นายจะไปไหน อย่าไปนะ~'เด็กชายวัย11ปีร้องไห้โยเยโบกมือไปทางด้านหน้าไปมา หวัเพียงจะไขว้คว้าร่างของพี่ชายฝาแฝดของตัวเองไว้
     'ไม่เอานะสิตา อย่าทำแบบนี้สิลูก'หญิงสาวร่างบางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปานจะขาดใจไม่แพ้กับผู้เป็นลูกชายคนเล็กของเธอที่อยู่ในอ้อมกอด เธอมองไปทางลูกชายคนโตของเธอที่ถูกคนที่เธอคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาไปจนตายจับมือไว้แน่นด้วยใบหน้านองน้ำตา
     วันนี้เป็นวันที่พวกเขาทั้งสองคนตกลงกันว่า ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ พวกเขาหย่ากันโดยแยกลูกทั้งสองออกจากกันด้วย
     'แม่ ไม่เอานะ สิตาอยากอยู่กับทิวา!'
     'ไม่ได้นะลูก มานี่!'
     'ทิวา!!!!'
     เสียงเด็กชายร้องไห้ดังปานจะขาดใจเสียตรงนี้ ผู้คนรอบๆต่างมองด้วยความสงสารเวทนาแต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้




     กลับมา ณ เวลาปัจจุบัน
     "เป็นไงมั่ง เห็นว่าพ่อพาย้ายไปอยู่ที่อังกฤษนี่นา"สิตาถามไถสารทุกข์สุกดิบของผู้เป็นพี่ชายด้วยความคิดถึง ทิวาตอบผู้เป็นน้องด้วยรอยยิ้งเศร้าๆว่า
     "พ่อน่ะ มีภรรยาใหม่แล้วล่ะ"เสียงที่ทิวาใช้ตอบกลับมาดูเศร้าสลด จนสิตารู้สึกใจหาย 
     "แล้วนายเป็นไงมั่ง"
     "พ่อไม่สนใจฉันเลย เอาแต่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นแล้วก็ลูกติดของเธอ เพราะงั้น"ทิวาหันมามองทางสิตาด้วยสายตาจริงจังแต่เต็มไปด้วยความเศร้า
     "เพราะงั้นทำไมเหรอทิวา"
     "ให้ฉันกลับมาอยู่ที่นี่นะ"
     "!!!?"



     ณ คฤหาสนีรพันธ์
     "นี่ อัณณ์ทำไมนายถึงยังนิ่งอยู่ได้ล่ะ สิตาตอนนี้จะเป็นยังไงมั่งก็ไม่รู้นะ"ไอยราโวยวายเสียงดังจ้องหน้าของอัณณ์อย่างโกรธเคืองจนตัวสั่น(แล้วเลือดกำเดาก็ทะลักจนต้องเปลี่ยนเป็นร่างจิต)
     "ใช่ๆพี่อัณณ์ ผมว่าลองไปดูที่บ้านของเจ้านั่นกันมั้ย"ธาวินพูดสนับสนุนไอยรา ถึงแม้ธาวินจะไม่ค่อยชอบสิตาแต่พอไม่มีคนถียงด้วยเลยรู้สึกเหงาๆ
     อัณณ์มองทั้งสองด้วยใบหน้านิ่งเรียบไร้อารมย์ 
     หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้สามวันแล้ว ในวันนั้น อัณณ์ได้นำร่างที่จมกองเลือดของสิตาไปให้ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลตรวจสอบ จึงได้รู้ว่าศพนี้เป็นแค่เวทภาพลวงตาของตระกูลครุฑเท่านั้น
     'หมอนั้น คิดจะล้อฉันเล่นรึยังไง ช่างไม่ปราณีตเอาซะเลย'อัณณ์คิดอย่างไม่สบอารมย์
     เขาจึงเลือกที่จะรอว่าเมื่อไหร่ที่สิตาตัวจริงจะกลับมา แล้วบอกว่าเกิดอะไรขึ้น มีจุดประสงข์อะไรถึงต้องทำแบบนี้ ความรู้สึกกระวนกระวายนี่มันอะไรกัน!!!
     ปิ้งป่อง~ปิ้งป้อง~เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น เรียกความสนใจของทั้งสามให้หันไปมองที่ประตู ขณะที่แม่บ้านกำลังเดินไปเปิดประตู อัณณ์ก็ได้พุ่งตัวไปที่ประตูแล้วเปิดมันออด้วยตัวเอง และสิ่งที่อันได้เห็นหลังจากเปิดประตูก็ทำให้เบิกตกว้างอย่างตกตะลึง
     "ไง ไม่ได้เจอกันนานนะ อัณณ์"
     สิตาที่ยืนยิ้มยียวนอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเขาอยู่ตรงหน้าของอัณณ์ที่ยืนนิ่งอึ้งมองหน้าเขา
     "สิ....ต..."
     "สิต้าาาาาาาา!!!~"ไอยรา(ร่างจิต)พุ่งทะลุตัวของอัณณ์เข้าไปกอดสิตาไว้แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดีใจปนสะอื้น
     "ไม่เอาน่า ไอยราอย่ากอดสิ หยุดร้องไห้ด้วย"สิตาพูยิ้มๆแล้วพยายามดันร่างของไอยราออกเบาๆ
     "แล้วนายไปไหนมาเหรอสิตา พวกเราเป็นห่วงนายมากเลยนะ"
     "นาย/ไอยราคนเดียวแหละ!"อัณณ์และธาวินตะโกนพูดพร้อมกัน
     อัณณ์มองสิตา แล้วถามเสียงนิ่งๆ
     "แล้วนายจะกลับมทำไม ทิ้งภารกิจของตัวเอง แล้วจะกลับมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้เนี่ยนะ ช่างไม่ปราณีตเอาซะเลย"
     สิตาหันกลับมาทางอัณณ์พร้อมกับยกมือเกาหัวแล้วค่อยๆเบียงตัวออกช้าๆเผยให้เห้นผู้ที่ยืนอยู่อีกคนด้านหลังของเขา
     "!!!!?"
     ทั้งสามมองค้างมองคนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาอึ้งๆ คนที่อยู่เบื้องหน้าของพวเขาคนนี้ มีใบหน้าเหมือนสิตาอย่างกัใช้เครื่องปริ้นเครื่องเดียวกัน เพียงแต่ว่าคนคนนี้มีเรือนผมสีแดงเพลิง และมีนยน์ตาเป็นสีดำสนิท
     "เอ่อ สิตา คนคนนี้คือ..."ไอยราถามแล้วชี้มือไปทางด้านหน้าอย่างสงสัย
     "เขาชื่อว่าทิวา เป็นพี่ชายฝาแฝดของฉัน แล้วก็..."สิตาหยุดพูดเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้ายิ้มที่ดูฝืดเฝือน และคำพูต่อมาก็ทำให้ทั้ง3คนตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม"ทิวาเป็นที่จะมาทำภารกิจของผู้นำตระกูลต่อจากฉัน"
     "!!!!???"
     "ท...ทำไมล่ะสิตา ถึงอัณณ์กับสิตาจะไม่ถูกกัน แต่ไม่น่าถึงกับต้องทำแบบนี้เลยนี่นา!"ไอยราเกาะแขนของสิตาไว้แน่นพร้อมกับโวยวายเสียงดังด้วยใบหน้าที่นองน้ำตา
     "ไม่ใช่หรอกไอยรา ที่จริงฉันก็เป็นแค่ตัวแทนอยู่แล้ว เพราะงั้น ตอนนี้ตัวจริงได้มารับหน้าที่แล้ว ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าฉันต้องหลีกทางให้กับเขา"สิตาพูดแล้วค่อยๆแกะมือของไอยราออก
     "ฉันไม่อณุญาติ"
     "..."
     อัณณ์ที่อยู่ๆก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดันเกรี้ยวกราด ซึ่งทำให้ทุกสายตาหันไปมองที่เขาเป็นจุดเดียว
     "ทำไมล่ะ ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันสุขุมมากกว่า มีพลังเวทมากกว่า เก่งกว่า หน้าตาก็ดีมากกว่าสิตา(?)แล้วสีผมของฉันก็ดูดีกว่าด้วย!!"(ความหลงตัวเองก็มีมากกว่าด้วยเช่นกัน)
     "มันไม่เกี่ยวว่าจะเก่งกว่าหรือดูดีกว่า มันไม่เกี่ยวเลย"อัณณ์พูดแล้วมองหน้าของทิวากับสิตาสลับกัน แล้วเขาก็หยุดสายตาไว้ที่สิตา สิตาที่ไม่ทันตั้งตัว พอถูกตาคมกริบไต้เลนส์แว่นของสิตาจ้องมาที่เขาตรงๆกระทันหันก็ทำให้เขาเผลอสะดุ้งสุดตัว
     อัณณ์กำลังไม่พอใจและโกรธสุดๆ
     "!!?" 
     "แต่มันเกี่ยวกับที่ว่า พวกฉันจะยอมรับใครก็เท่านั้น"อัณณ์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเฉียบขาด สิตาที่ได้ยินคำพูดนั้นก็รู้ราวกับในอกถูกยกหินหนักๆออกไปจนหมด
     'เจ้าขี้เก้กนี่ มันยอมรับฉันงั้นเหรอ'สิตาคิดอึ้งๆ
     "ใช่ๆต้องเป็นเจ้าบื่อนี่เท่านั้น คนที่จะซื่อบื้อเถียงสนุกเท่าเจ้านี่น่ะไม่มีอีกแล้ว"ธาวินพูดแล้วเชิดหน้าหนี แต่พวกเขาก็สังเกตเห็นที่ใบหูน้อยๆของเด็กชายที่เป็นสีแดงแจ๋(แบบนี่เขาเรียกว่าซึนนะเด็กน้อย แอ่ฟ!!:โดนธาวินใช้เล็บแทง)
     "อืมๆถ้าไม่ใช่สิตาก็ไม่มีความหมายหรอก"ไอยราพูดส่งเสริม แล้วพุ่งตัวไปกอดสิตาไว้แน่นอีกครั้ง
     "มากไปแล้วไอยรา ดูไม่ปราณีตเอาซะเลยนะ"อัณณ์พูดเสียงเข้มจนไอยราต้องรีบปล่อยมือออกจากสิตาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งกล่าวขอโทษไปมา
     "ส่วนนาย มากับฉัน"อัณณ์ไม่พูดเปล่า เขาจัดการเดินไปกระชากแขนของสิตาให้เดินตามเขาเข้าไปในคฤหาสอย่างแรง 
     อัณณ์พาสิตาเดินมาจนถึงห้องของสิตาที่อยู่ชั้นสอง ข้าวของในห้องถูกจัดไว้จนเป็นระเบียบเหมือนตอนที่สิตาอาศัยอยู่เมื่อก่อนหน้านี่ พอเข้าไปในห้อง อัณณ์ก็ดันร่างของสิตาจนติดผนัง แล้วใช่มือยันกำแพงเพื่อกันสิตาหนี
     "โอ๊ย!อะไรของแกเนี่ย ฉันเจ็บนะโว๊ย!"สิัตาโวยวายเสียงดัง แต่อัณณ์ไม่สนใจ ถามเสียงนิ่ง
     "นายคิดจะทำอะไร"
     สิตามองสายตาของอัณณ์ที่มองมาทางเขา ราวกับพญางูจ้องจะกินเหยื่ออย่างหวาดๆ จึงตอบอัณณ์เสียงอ้อมแอ้ม
     "อะไรเล่า ก็ฉันเปนลูกคนรองนี่นา คนที่เป็นลูกคนโตสิถึงจะได้เป็นเจ้าบ้านและเป็นผู้นำของตระกูลได้น่ะ ฉันมันก็แค่ตัวสำรอง ทิวาต่างหากล่ะคือตัวจริง แล้วมันผิดหรือไงที่ฉันจะหลีกทางให้กับเขาล่ะ!"
     "แล้วนายอยากจะหลีกทางให้หมอนั่นจริงๆรึไงล่ะ!!"อัณณ์พูดขึ้นเสียงดังจนสิตาชะงักแล้วค่อยๆก้มหน้าพูดเสียงสั่นๆ
     "ไม่...ไม่อยากอยู่แล้ว แต่...แต่ว่า ทิวาน่ะ"
     "เป็นพี่ชายสินะ"อัณณ์พูดขัดขึ้น สิตาพยักหน้าเบาๆ เขาก้มหน้าลงมากกว่าเดิม เพื่อซ่อนใบหน้าที่คลอไปด้วยน้ำตาที่จวนเจียนจะไหลในไม่ช้า
     ฟึ่บ!
     "อ๊ะ แกทำบ้าอะไรน่ะ!"สิตาโวยวาย เมื่ออยู่ๆอัณณ์ก็รวบตัวเขาไปกอดไว้แน่น ด้วยส่วนสูงที่ไกล้เคียงกัน จึงทำให้แก้มของสิตาสัมผัสแตะกับแก้มของอัณณ์
     "ฉันไม่ยออมหรอก ฉันไม่ยอมให้นายไป..."อัณณ์พูดกระซิบที่ข้างหูของสิตาเบาๆ 
     "แล้วนายจะให้ฉันทำยังไงเล่า!!!"สิตาผลั๊กร่างของอัณณ์ออกอย่างแรงแล้วตะโกนอย่างสุดเสียง อัณณ์ที่กำลังจะโวยใส่สิตาที่ทำให้เสื้อเขายับถึงกับชะงักอึ้งพูดไม่ออกเมื่องเห็นใบหน้าที่นองน้ำตาของสิตา
     "สิตา นาย..."
     "ฉันไม่ได้...ฮึก อยากไปสักหน่อย แต่ฉันก็ ฮึก ทิวากลับมาแล้ว ฉันต้องหลีกทางให้กับเขา ฮึก"สิตาพูดจบก็ยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตาแรงๆแล้วเอ่ยลาอัณณ์อีกครั้ง"เอาล่ะ ฉันต้องกลับบ้านแล้ว ลาก่อนนะอัณณ์"
     สิตาพูดแล้ววิ่งออกจากห้อง แต่ขณะที่เขาวิ่งผ่านร่างของอัณณ์ ร่างของเขาก็ถูกรวบไว้จากด้านหลังเสียก่อน
     หมับ
     "ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ยอมให้นายไป ฉันชอบนายนะ"อัณณ์จับร่างของสิตาให้หันกลับมามองหน้าเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน"ขอร้อง อย่าไปเลย...ได้โปรด"
     "!!!?"สิตาที่ตะลึงว่าอัณณ์พูดขอร้องเขา จนไม่ทันสังเกตถึงระยะห่างของใบหน้าพวกเขาที่เริ่มลดลงจนริมฝีกปากของพวกเขาสัมผัสกัน แรกๆเนิบช้าราวกับกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงนผิวน้ำ และเริ่มหนักหน่วงขึ้นจนสิตาตั้งตัวไม่ทัน
     "อืม อื้ม!!!"สิตาพยายามทุบไปที่ไหล่ของอัณณ์ และพยายามหันหน้าหนี แต่ก็ถูกอัณณ์ใช้แขนข้างหนึ่งกอดเอวไว้แน่นจนลำตัวของพวกเขาแนบชิดกัน แล้วมืออีกข้าก็กดท้ายทอยของสิตาไม่ให้หันหนีและรับจูบของเขาที่เริ่มจะมีความรุนแรงมากขึ้นตามอารมย์ที่่เริ่มจะปะทุสูงขึ้น
     แล้วสติของสิตาก็ดับวูบลง




     "อืม..."สิตาค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ สภาพรอบๆตัวดูคุ้นตา ห้องของเขาในคฤหาสนีรพัธ์ ทำให้เขาคิดอย่างไม่แน่ใจ
     'เมื้อกี้มัน...ความฝัน?'ขณะที่เขากำลังคิดอยูนั่นเองก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างตัว
     "ไม่ใช่ความฝันหรอกสิตา"
     สิตาลุกขึ้นจากเตียงแล้วมองไปที่ประตู ทิวาที่ยืนอยู่นั่นเป็นคนที่ตอบคำถามในความคิดของเขา 
     ทิวาเดินมาที่เตียงของสิตา แล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆสิตาบนเตียง
     "มันไม่ใช่ความฝัน มันเป็นความจริง"ทิวาพูดย้ำ
     "ล แล้วทำไม ทำไมฉันถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ นายน่าจะได้เป็นผู้นำตระกูลครุฑแล้วนี่..."สิตาพูดเองก็รู้สึกเศร้าเอง เขาช้อนตาขึ้นมิงหน้าทิวา ทิวามองท่าทางเหล่านั้นของน้องชายด้วยความรู้สึกเอ็นดู เขายกมือขึ้นลูบเส้นผมสีทองยุ่งเหยิงแต่กลับนุ่มมือน่าสัมผัสนั้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
     "ฉันเป็นไม่ได้หรอก"
     "ทำไมล่ะทิวา ก็นาย"สิตายังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงพูดแทรกขึ้น
     "เพราะเขาไม่ได้รับการยอมรับจากผู้นำตระกูลอีกสามตระกูลยังไงล่ะ เพราะงั้น นายก็ต้องทำภารกิจที่นี่ต่อไป"ผู้พูดคืออัณณ์ที่เพิ่งเข้ามใหม่ พร้อมกับชายหนุ่มต่างชาติผมสีน้ำตาลอ่อนตาสีฟ้าตัวสูงใหญ่อย่างหุ่นนักกีฬา อัณณ์และหนุ่มต่างชาติเดินมาหยุดที่ข้างเตียงที่สิตาและทิวานั่งอยู่
     ทิวามองชายร่างสูงอย่างตกตะลึก ก่อนจะร้องเสียงดัง
     "ริชาท นายมาที่นี่ได้ยังไง!!!"
     "ฉันก็มรับนายกลับบ้านน่ะสิ กลับได้แล้ว มัมกับแด๊ดกำลังเป็นห่วง"ริชาทเป็นลูกติดของแม่ใหม่ทิวา เขาขึนพูดเสียงนิ่ง พูดจบริชาทก็ดึงมือทิวาให้ลุกมาหาเขา แต่ทิวาก็ขืนตัวเอาไว้"ดื้อจริง"ริชาทพูดด้วยน้ำเสียงติดจะเริ่มหงุดหงิด ก่อนจะ...
     "หวา!ทำอะไรน่ะเจ้ายักษ์นี่ ปล่อยฉันลงนะ ปล่อย!!!"ริชาทรวบตัวทิวาแล้วยกขึ้นจับพาดบนไหล่กว้างของเขา ทิวาที่โดนริชาทจับพาดบ่าทั้งดิ้นทั้งโวยวายเสียงดัง
     "อย่าดิ้น อย่าร้องด้วย ถ้าไม่เชื่อฟังคงรู้นะว่ากลับไปจะโดนอะไร"ทันทีที่ริชาทพูดจบ ทิวาที่ดิ้นราทกับนกโดนน้ำร้อนก็นิ่งสนิททันทีราวกับถูกปิดสวิต
     สิตามองตามทั้งสองที่ออกจากประตูไปจนรับสายตา 
     "..."
     "เอาล่ะ เท่านี่นายก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อ นายหนีไม่ได้แล้วนะ สิตา"
     "!!!?"สิตาเบิกตากว้าง นี้เป็นครั้งแรกที่อัณณ์เรียกชื่อของเขา อัณณ์มองตาของสิตานิ่ง จนเป็นสิตาเองที่จะต้องหลบสายตาเอง
     "อย่าหันหน้าหนีสิ ถึงนายจะหนียังไง แต่ถ้าอะไรหรือใครที่ถูกฉันหมายตาไว้ ไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอกนะ"
     ใบหน้าของอัณณ์ค่อยๆเคลื่อนมาไกล้ๆหน้าของสิตามากขึ้นเรื่อยๆสิตาพยายามหันหน้าหนี แต่มือของอัณณ์ที่จับใบหน้าเขาไว้ทำให้เขาไม่สามารถหันหนีได้ ริมฝีปากของอัณณ์แตะผ่านข้างแก้มของสิตาเบาๆ ก่อนจะเลื่อนเปลี่ยนไปเป็นกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์อย่างที่สิตาไม่เคยได้ยินจากคนตรงหน้ามาก่อนว่า
     "ไม่ว่ายังไง นายก็ไปจากฉันไม่พ้นหรอกนกน้อย"
     "นกน้อยบ้านนายเซ่ ไอ้งูหื่น อุ๊บ!!!"สิตาโวยวายหน้าแดง ก่อนจะถูกอัณณ์กดจูบอย่างรวดเร็ว....
     


     END

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น