วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

fic: the intimate competion Frozen/Hawic

   
fic:   the intimate competion   

       Frozen/Hawic

      



      ชายหนุ่มผู้มีดวงตาเพียงข้างเดียว นัยต์ตาสีทรายเฉกเช่นเดียวกับสีผมที่ปิดดวงตาอีกด้านซึ่งบอดสนิท น้ำเสียงทุ้มติดหวานเปล่งเสียงร้องเพลงกล่อมเด็กที่เขาได้ฟังจากผู้เป็นมารดาที่เคยขับกล่อมเขาเมื่อวัยเยาว์ก่อนที่ท่านจะจากเขาไปตลอดการ เสียงนั่นดังไปตามสายลมฟังดูวังเวงแต่โดดเดี่ยวในที ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งร้องเพลงเงียบๆคนเดียวนั้น อยู่ๆก็มีเสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้น
     "ฮาวิค ฮาวิคเจ้าอยู่ที่ไหนน่ะ"
     ฮาวิคหันกลับไมองเสีนงที่เรียกหาตน คนที่เรียกเขาเป็นเด็กหนุ่มร่างบาง เส้นผมของเด็กหนุ่มเป็นสีดำแซมเงิน ดวงตากลมโตสีดำรัตติกาลนั่นที่ทุกทีจะส่องประกายสดใสร่าเริงสมวัย แต่ตอนนี้กลับฉายแววเป็นกังวลเล็กน้อย(ฮาวิคได้ยินเสียงในความคิดว่านายท่านกลัวสิิ่งที่เรียกว่าผี)เขาคือ เซอเซเรซิสเซทัล หรือ เซอเซส ซึ่งเป็นเจ้านายที่เขาทำพันธสัญญาด้วย(ด้วยความจำเป็น และกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ)
     "นายท่าน"ฮาวิคพึมพำแล้วเดินไปทางเด็กหนุ่มที่กำลังวิ่งมาทงเขาเช่นกัน
     "ฮาวิคมาทำอะไรที่นี่เหรอ หรือว่านอนไม่หลับอีกแล้ว?"เซอเซสถามออกไปอย่างฉงนสงสัย ฮาวิคพยักหน้าเป็นการตอบเล็กน้อย
     "งั้นดีเลย ข้าก็นอนไม่หลับเหมือนกัน งั้นเราไปเดินเล่นกันเถอะ"เซอเซสพูดด้วยน้ำ้เสียงร่าเริงข้นมากกว่าเดิม เขาเดินเกาะแขนเรียวของฮาวิคแล้วเดินไปทางสวนด้านหลังของสมาพันธส่งสารแห่งสามภพทันที ฮาวิคที่ตั้งใจจะปฏิเสธในตอนแรกเพราะเขาเริ่มจะง่วงแล้ว ต้องเปลี่ยนเป็นตอบตกลงอย่างช่วยไม่ได้ทันทีเมื่อเห็นสายตาราวกับลูกหมาขอขนมมาทางเขา พร้อมกับความคิดของร่างบางที่ดังขึ้นในหัวเขาว่า'ห้ามปฏิเสธเด็ดขาดนะ เจ้าเท่านั้นที่มีหน้าตาเป็นอาวุธไว้ไล่ผีให้ข้าได้!'
     เอ่ม นายท่าน ท่านเห็นข้าเป็นตัวอะไรกันแน่ ฮาวิคคิดอย่างเหนื่อยใจ(ซึ่งแน่นอนว่าเซอเซสไม่ได้ยินแน่ๆ)แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตามแรงดึงที่ช่างน้อยนิดเหลือเกินสำหรับเขา ไปตามเส้นทางต่างๆในสมาพันธ
     ทั้งสองเดินไปเรื่อยๆโดยที่เซอเซสพูดเล่าเรื่องราวต่างๆที่ตนเข้ามาเป็นผู้ส่งสารแห่งสามภพช่วงแรกๆ ทั้งเรื่องภารกิจต่างๆที่ยากแสนยาก(?)เจอเรื่องราวมากมาย และเรื่องในสมาพันธ เศร้าบ้าง สนุกบ้าง ฮาวิคฟังเด็กหนุ่มเล่าเรื่องราวต่างๆไปเรื่อยๆอย่างเพลิดเพลิน(ปนรำคาญในบางที) จนรู้ตัวอีกทีเขาก็เห็นว่าเส้นททงรอบด้านมันช่างไม่คุ้นตาเอาเสียเลย
     "นายท่าน"ฮาวิคกระตุกแขนที่มีมือของเด็กหนุ่มเกาะไว้เพื่อให้หยุดเดิน เซอเซสหันมาทางเขาอย่างไม่เข้าใจ ฮาวิคจงสื่อสารทางความคิดกับเซอเซสว่าให้มองไปรอบๆ 
     เซอเซสทำตามอย่าซื่อๆ แล้วทันทีที่เขามองไปรอบๆแล้วเด็กหนุ่มก็หันขวับกลับมาทางเขาด้วยใบหน้าซีดเผือดเหงื่อตก
     "ท...ที่นี่ ที่ไหนน่ะ"
     ฮาวิคได้แต่ส่ายหน้าระอากับความซวยของคนตรงหน้าที่แผลงฤทธิไม่เลือกเวลาจนทำให้เขาพลอยซวยไปด้วย
ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขากำลัง'หลงทาง'อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะ
     "นายท่านลองเรียกเจ้าเสือสีทองดูสิขอรับ"เขาลองเสนอความคิดดู ซึ่งเด็กหนุ่มก็ทำตามที่เขาบอกทันทีอย่างร้อนรนโดยการตะโกนเขาไปในความคิดในหัวหัวอย่างรวดเร็วและดังมากๆจนฮาวิคที่ได้ยินความคิดของร่างบางเหมือนกัยถึงกับสะดุ้งกับความดังจนหัวแทบแตกของเสี่ยงที่ดังในหัว
 'โฟรเซนๆๆๆ เฮ้!เจ้าเสือบ้าขี้เซา มารับข้ากับฮาวิคที พวกข้าหลงทางอยู่ในสวนด้านหลังของสมาพันธ!'เมื่อผ่านไปซักพักจึงค่อยมีเสียงตอบกลับมาอย่างคนงัวเงียราวกับเพิ่งตื่นว่า
      'หืม~อาราย...โคนจานอนนนน~แค่ในป่าของสมาพันธเอง เจ้าก็กลับมมาเองเซ่ เจ้าเซ่อซ่า' เสียงนั่นงังเงียมาก บ่งบอกว่าเจ้าของเสียงต้องไม่มีทางมารับพวกเขาแน่นอน
     ฮาวิคคิดอย่างแค้นใจ ภาคในหัวเป็นชายหนุ่มร่างสูงกำยำสมสวน ผิววสีคล้ำแดดตัดกับเส้นผมสีทองสะท้อนแสง และนัยส์ตาสีแดงดั่งโลหิต ทั้งที่ทั้งหมดน่าจะตัดกันไปหมดจนไม่น่าเข้ากันได้ แต่ทำไมเมื่อมันมารวมอยู่ในตัวของเจ้าพยัคฆ์เมฆานิสัยน่าหมั่นใส้ตนนี้มันกลับดูลงตัวไปหมด แต่...ช่างเรื่องนั้นก่อน กลับมาเรื่องปัจจุบันคือ เจ้าเสือบ้านั่นจะไม่ยอมมารับพวกเราสินะ!!!!
     เซอเซสพายามส่งเสียงเรียกอีกสองสามครั้ง แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกับมาจนเป็นเขาเองที่ทนกับเสียงที่ดังในหัวไปมาไม่ไหวจนต้องจับใหล่บางนั่นไว้ให้หยุด ก่อนจะเสนอความคิดอีกครั้ง
     "ข้าจะลองบินขึ้นไปดูขอรับ"เขาพูดเสียงนิ่ง
     "อะ อืม"ร่างบางดูจะผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเขาพูดความคิดนี่ เซอเซสตอบรับอย่างดีใจ ฮาวิคก้มลงอุ้มร่างบางไว้ในอ้อมแขน ก่อนที่เขาจะยืดตัวตรงพร้อมกับกางปีกขึ้น ปีกสีทรายเฉกเช่นเดียวกับสีผมและสีตาของเขากระพือขึ้นลงอย่างช้าๆแต่มั่นคง จนตัวของพวกเขาเริ่มลอยตัวขึ้นจากพื้นช้าๆ 
     แต่ขณะที่พวกเขากำลังลอยตัวขึ้นเกือบพ้นยอดไม้ไปนั่นเอง
     เฟี้ยว!ฉึก!! 
     "อึ่ก!" 
     ฮาวิคกัดฟันกลั้นเสียงร้องไว้ เมื่ออยู่ๆก็มีกริซคมกรบสีเงินวาววับพุ่งเข้ามาเฉียดปีกของเขาไปนิดเดียว กริซพุ่งออกมาจากทุกทิศทางอย่างต่อเนื่อง  ฮาวิคบินหลบไปมาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งพยายามใช้ตัวเองบังร่างในอ้อมแขนไว้จากห่ากระสุนกริซเหล่านั้นแต่ก็ยังมีกริซหลายอันที่เรียกเลือดไปจากพวกเขไม่น้อย
     "อ้ากกก!!นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!!!!"เซอเซสร้องเสียงดังด้วยความกลัว ฮาวิคเก็บปีกที่บาดเจ็บจนไม่อาาจทานน้ำหนักของคนสองคนได้ไหว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งหลบไปมาอย่างรวดเร็วแทน 
     "แฮ่ก แฮ่ก อึ่ก นี่หรือว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่พวกรุ่นพี่เคยพูดให้ฟังน่ะ"เซอเซสพูดด้วยน้ำเสียงปนหอบ(จากการร้องและดิ้่นไปมา)
     ขณะนี้พวกเขาอยู่ในถ้ำถ้ำหนึ่งที่มีขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่แค่พอให้คนสองคนเข้าไปหลบอยู่ได้โดยไม่เบียดกันมาเกินไปแค่นั้น แล้วอยู่ๆฝนก็ได้เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้เซอเซสที่กำลังเสียขวัญ กรีดร้องขึ้นเสียงดัง
     "ท...ทำไงดี ฮาวิค มืดจังเลย มองไม่เห็นอะไรเลย ฝนก็ตกด้วย"
     เซอเซสพูดด้วยน้ำเสียงราวกับจะร้องไห้ในอีกไม่ช้า เซอเซสที่เป็นเผ่าอีกา และฮาวิคที่เป็นเผ่าเหยี่ยว ซึ่งเป็นเผ่าพันธ์จำพวกนก ซึ่งจะตาบอดเกือบจะสนิทในเวลากลางคืน สิ่งที่พวกเขารับรู้ได้ในตอนนี้คือ เสียง กลิ่นและและสัมผัสจากฝ่ามือเพียงเท่านั้น 
     ฮาวิคพยายามมองฝ่าความมืดไปยังร่างบางตรงหน้า แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเด็กหนุ่ม 
     "ฮึก ฮึก ฮือ ฮาวิค ข้ากลัว มันมืดแล้วก็หนาวเหลือเกิน"เซอเซสพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น ฮาวิคมองภาพตรงหน้า มันเป็นภาพซ้อนทับกับตัวเขาในวัยเยาว์ 
     ภาพของเขาซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียง15ปี หลังจากที่เขาถูกควักดวงตาข้างขวาออกไปโดยพ่อแท้ๆของเขา เขาก็ถูกขังอยู่ในถ้ำที่ถูกปิดตายนั้น แล้วเขาจะต้องออกไปให้ได้ด้วยตัวเอง มันเป็นการทดสอบเขา ที่จะต้องกลายเป็นหัวหน้าเผ่าต่อจากพ่อ หากเขารอดเขาก็จะกลายเป็นหัวหน้าเผ่า แต่ถ้าหากเขาตาย เนโรจะต้องมาเจอเหตุการณ์โหดร้ายแบบนี่เหมือนกับเขา 
     เขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด!
     ถึงจะหิวขนาดไหน หรืออยากกินอหารที่มีรสอร่อยขนาดไหน แต่เขาทำได้เพียงกินแมลงและสัตว์ตัวน้อยที่หลงเข้าไปในถ้ำเพื่อประทังความหิว ถึงเขาจะกระหายน้ำขนาดไหน เขาก็ต้องทนจะกว่าจะมีน้ำค้างหรือหยาดฝนที่หยดมาทางรอยแตกเพียงเล็กน้อยของถ้ำเพียงไม่กี่หยดเพื่อดับกระหาย ถึงแม้...จะกลัวขนาดไหน เข้าก็ต้องผ่านมันไปให้ได้!แต่ก็ยังมีบางคืนที่เขาทนไม่ไหว ฟุ้งซ่าน กรีดร้องพร้อมกับทุบผนังถ้ำเพื่อหวังว่าท่านพ่อจะกลับมาช่วยเขา ปลอบเขา แล้วบอกว่า 'ไม่ต้องกลัวลูกพ่อ พ่อมารับเจ้ากลับบ้านแล้ว' แต่วันแล้ววันเล่า ท่านพ่อก็ไม่เคยมาหาเขาเลย จนกระทั่งวันที่เขาสามมารถใช้พลังของตัวเองทำลายประตูถ้ำแล้วออกไปด้วยกำลังของตัวเอง 
     แต่เสียงกรีดร้องของเขาในตอนนั้น ยังคงดังหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้ และตอนนี้ 
     'ท่านพ่อปล่อยข้าไป ได้โปรด ข้ากลัว'
     'ท่านพ่อ...ไครก็ได้ ช่วยข้าด้วย'
     ตอนนี้ภาพของเซอเซสที่กำลังกอดเข่าร้องไห้อยู่ตรงหน้า มันช่างซ้อนทับกับภาพเขาในอดีตเหลือเกิน พอแล้ว ข้ไม่ต้องการให้ไครมาทนทรมานกับความกลัวเหมือนข้าอีก 
     หมับ 
     "ฮ ฮาวิค"เด็กหนุ่มเรียกชืื่อของเขาอย่างไม่อยากเชื่อที่โดนเขารวบตัวเข้ามากอดไว้แนบออก ข้ากระชับกอดแน่นหวังเพียงให้อุณกภูมิจากตัวข้า ถ่ายทอดไปให้ร่างในอ้อมแขนนี้ ช่วยคลายความเหน็บหนาาวและความกลัว แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี 
     "ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่ตรงนี้ ท่านไม่ต้องกลัวนะ"เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนครั้งที่เขาเคยใช้ปลอบโยนเนโร พร้อมกับในมือลูบหัวที่ปกคลุมด้วยเส้นผมนุ่นนั้นอย่างแผ่วเบา 
     "อืม...ฮาวิค ข้าง่วงจัง"เซอเซสพูดด้วยน้ำเสียงปนงัวเงียพร้อมส่งสายตาที่จะหลับมิหลับแหล่มาทางเขา ตอนนี้เด็กหนุ่มหยุดร้องไห้แล้ว เหลือเพียงคราบน้ำตาเล็กน้อยที่หางตา ฮาวิคมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดู ก่อนจะค่อยๆดันกดหัวของเด็กหนุ่มลงบนตักแล้วค่อยๆลูบหัวนั้นไปมาอย่างแผ่วเบา พร้อมๆกับเอื่อนเอื่อยขับกล่อมเพลงกล่อมเด็กที่เขาร้องไปก่อนหน้านี้ ขับกล่อมให้เด็กหนุ่มเข้าสู่ห้วงนิทราที่รื่นรมย์อย่างช้าๆ 
     เขายังคงร้องไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ในถ้ำนี้เงียบเกินไป ภาพของเขาที่อยู่ในถ้ำที่ไร้ซึึ่งเสียงไดๆฉายขึ้นในหัว ฮาวิคสะบัดหัวไล่ภาพพวกนั้นออกไป แล้วอยู่ๆฮาวิคที่นอนอยู่บนตักเขาก็ขยับตัว พร้อมกับละเมอพึมพำเสียงแผ่วเบา 
     "งืมๆ ทุกโคน...ข้า กลาบ มา แล้วววว แจ่บๆๆๆ"
     ฮาวิคมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูจนเขายิ้มอ่อนโยนออกมาอย่างไม่รู้ตัว
     "ข้าสัญญา ข้าจะพาท่านกลับไปให้ได้ขอรับ นายท่าน"
     พูดจบเขาก็รู้สึกหนังตาของตัวเองเริ่มที่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีลูตุ้มเหล็กที่หนักแสนหนักถ่วงที่หนังตาของเขา เขาพยายามฝืนมันไว้ หากเขาหลับในสวน(ที่เกือบๆจะเป็นป่า)แห่งนี้ไม่รู้จะมีสัตว์ป่าหรืออะไรก้ตามเข้ามาทำร้ายเขารึเปล่า เพราะงั้น เขาจะหลับไม่ได้ 
     "อย่าฝืนเลย หลับเสียเถอะ"ฮาวิคพยายามลืมตามองว่าเสียงปริศนานั่นดังมาจากที่ไหน แต่เพราะสติที่เริ่มเหลือน้อยเต็มที ทำให้เขาไม่อาจจำแนกได้ว่าเสียงนั้นดังมาจากไหน และเสียงของใครแล้วสุดท้ายสติของเขาก็ดับวูบลง
    


      "การรับน้องใหม่และทดสอบฮาวิคผ่าไปด้วยดีเลย ไม่อยากเชื่อเลยว่าฮาวิคจะเสียงหวานแล้วก็ยังยิ้มได้ดูดีแบบนี้นา"กลาเซียสพูดด้วยใบหน้ายิ้มๆ เขาเป็นคนคิดแผนทดสอบและรับน้องนี้ขึ้นแถมยังเป็นคนสั่งให้เฟนเซลร่ายเวทนิทราใส่ฮาวิคอีกด้วย
     "เหมือนกับคุณแม่เลยนะ ฮาวิคคุงเนี่ย ทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บขนาดนี้ แต่ก็อดทนจนเซอเซสคุงหลับลงไปเนี่ย"เพล หรือ เพลโธรัส พูดแล้วเดินไปค่อยๆขยับตัวเซอเซสออกมาจากฮาวิค ก่อนเรียกซัฟเฟอร์มาอุ้มเซอเซสออกไปก่อน      "ซีเอล ข้าบอกให้เจ้าขว้างกริซแค่เฉียดๆก็พอ แต่เจ้ากลับทำให้เขาเกิดแผลลึกขนาดนี้"เด็กชายร่างเล็กนาม จีเซลพูดขึ้น 
     "ขออภัยด้วยขอครับ"ซีเอลพูดด้วยน้ำเสียง(ที่แสร้งทำเป็น)สำนกผิด 
     "เป็นเพลงที่เพราะมาก ดูสิขนาดเอรินยังหลับไปเลย"ซัทเซนพูดยิ้มๆพร้อมกับก้มลงมองร่างของพยัคฆ์เมฆาสาวของเขาที่ตอนนี้ได้นอนหลับบนอ้อมกอดของเขา 
     "เอาล่ะ โฟรเซนคุง ข้าอุ้มเซอเซสคุงให้แล้ว ส่วนเจ้าก็ไปอุ้มฮาวิคทีละกันนะ"เพลหันไปพูดกับโฟรเซนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาด้วยใบน้าที่มีรอยยิ้มบริสุทธิส่งไปให้ร่างสูง 
     "อะไร ทำไมต้องเป็นข้าด้วย....ชิ!ก็ได้ฟะ"โฟเซนได้แต่ตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจเมืื่อถูกสายตาของคนในสมาพันธจ้องจิกจากรอบด้าน
     "ฮึบ เอ๋...เจ้านี่"ตัวเบากว่าที่คิดแฮะ แถมเอวยังบางโคตรอีก โฟรเซนคิดเมื่อเขาอุ้มฮาวิคขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะข้ามมิติกลับไปที่ตึกสมาพันธตามคนอื่นๆไป 
     เมืื่อมาถึงสมาพันธ โฟรเซนก็ไปที่ห้องพยายบาลซึ่งเป็นห้องประจำของคาเทลเลียส หรือ คาร์ทนั่นเอง เมื่อมาถึง โฟรเซนก็จัดกานวางร่างของฮาวิคลงบนเตียงอย่างเบามือ เมื่อวางฮาวิคลงเรียบร้อย ทำให้เขามีเวลาสังเกตใบหน้าที่เขาเคยปรามาสไว้ว่าหน้าตายเหมือนตอไม้เพิ่งตัด เมื่อเขาได้เห็นไกล้ๆแบบนี้ ทำให้เขสังเกตว่า เจ้าเหยี่ยวตรงหน้าหน้าหวานกว่าทีคิด แม้ใบหน้าครึ่งซีกจะถูกปกปิดด้วยเส้นผมสีอ่อนดูอ่อนนุ่นและส่งกลิ่นหอมจางๆ แต่ใบหน้าอีกครึ่งที่มีคิ้วเรียวสวยได้รูป ดวงตาที่ถูกเปลือกตาบางปิดไว้พร้อมกับแพขนตาที่ขับให้ดวงตานี้ดูคมเข้มแต่ก็สวยหวานเช่นเดียวกันจมูกโด่งเรียวสวยรับกับริมฝีปากสวยสีซีดที่ปิดสนิท โดยไม่รู้ตัว โฟรเซนเผลอยกมือขึ้นลูบไล้พวงแก้มเนียนนั้นพร้อมกับค่อยๆก้มหน้ลงไปไกล้ใบหน้าของคนบนเตียงขึ้นเรื่อยๆ 
     "อ๊ะ นี้ข้ากำลังทำอะไรอยู่วะเนี้ย"ดฟรเซนสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้สติว่าเขาเกือบทำิดีมิร้ายเจ้าคู่กัดของเขาเข้าซะแล้ว
     "ก็เกือบ KISS กันไงล่า ทำต่อสิพวกข้าจะไม่กวนเจ้าหรอก"
     โฟรเซนหันไปมองทางผู้ที่พูดเมื่อกี้ ก็เห็นเหล่าสมาชิกของสมาพันธทุกคนกำลังเสนอหน้ามองมาทางพวกเขาตาแป๋ว แล้วคนที่พูดเมื่อกี้ก็คือคาร์ทซึ่งเป็นเจ้าของห้องนั้นเอง
     "ทำต่อสิ อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว เอ้า จู้บบบบ~"ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกันแล้วทำปากจู๋ล้อเลียนโฟรเซนที่ตอนนี้ยืนตัวแข็งทื่อหน้าแดงมองพวกเขาอย่างทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะใช้เวทข้ามมิติออกไปจากห้องนี้อย่างรวดเร็วทันที
     "ชิ อีกนิดเดียวแท้ๆ"คาร์ทพูดขึ้นอย่างเสียดายพร้อมกับมองไปทางคนอื่นๆ แล้วกลาเซียสก็พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้าง 
     "ฮ่าๆๆๆ ไม่เป็นไรน่าๆยังไงข้าก็จะจับคู่สองคนนี้ให้ได้อยู่ดีแหละน่า"กลาเซียสพูดขึ้น แล้วหันไปมองเหล่าสมาชิกของเขาอย่างเจ้าเล่ห์
เฟนเซล-กับข้า ซีเอล-จีเซล ซัฟเฟอร์-เพลโธรัส เดซารอส-กับเซอเซส คาร์เทลเลียส ช่างเถอะเจ้านี้คงกะโสดตลอดชีวิต คู่ต่อไปโฟรเซน-ฮาวิค เจ้าคือคู่ต่อไปที่พวกข้าจะจับคู่ให้5555+

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น