วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

fic ครอบครัวผมไม่ใช่คน(yaoi)

เรื่องนี้จะเป็นคู่ของ เต่อเต๋อ-อวี่อวี้ และ เสิ้งเอินเตี้ยน-ฟางเหมิง(หรือMaurice)นั้นเองงงงง!!!
     

     หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ที่เต่อเต๋อ หรือลูซิเฟอร์ ผู้เป็นลูกคนเล็ก(ปลอมๆ)บ้านตระกูลฟาง ได้ทำการพาเหล่าสมชิกตระกูลฟางบุกขึ้นสวรรค์เพื่อขโมยคำภีราจิล แล้วได้รู้ควมจริงทำให้เขาไม่ถูกชาวสวรรค์ตามล่าอีกต่อไป
     วันนี้อวี้อวี้หรือฟางอวี้ มาโรงเรียนตามปกติ แต่วันนี้อวี่อวี้หรือฟางอวี้ มาโรงเรียนตามปกติ แต่วันขี้องี่พวี้กเัขาีมีกสังหรณ์แปลกๆ ครอบครัวของเขามีกันอยูุ่6คน คือ พ่อ แม่ พี่สาว พี่ชาย เขา แล้วก็เต่อเต๋อที่มีฐานะเป็นน้องชายฝาแฝดของเขา แต่ใครบ้างเล่าจะรู้ว่าควมจริงของครอบครัวนี้ พ่อที่ดุเหมือนเป็นแค่บาทหลวงที่หน้าตาดี(มาก)คนนี้แท้จริงแล้ว จะมีฐนะเป็นถึงอัศวินผู้พิทักษ์นภาของสวรรค์มาก่อน ก่อนที่จะได้มาพบรักกับแม่ของพวกเขาซึ่งเป็นแม่มดแสนสวยคนสนิทของจอมมารลูซิเฟอร์ จนทำให้พ่อของเขามาอยู่ข้าปิศาจแทบทันที จนได้ให้กำเนิดเหล่าลูกๆที่น่ารักทั้ง4คน คนแรกคื่อ ฟางหยางลูกสาวคนโตแสนสวยผู้คลั่งไคล้ศาสตร์แห่งเวทมนต์เป็นชีวิตจิตใจ แต่ความจริงแล้วเธอคือเทวีสงคราม ผู้ถูกเรียกว่าวัลคีลี และลูกชายคนที่สองผู้มีใบหน้าธรรมด้าธรรมดาแต่กลับมาฮาเร็มเหล่าสาวๆเป็นของตัวเอง แถมยังเป็นโอตาคุบ้าการแต่งคอสเพลย์ตัวยง แต่ที่จริงแล้วเขาคือเ่าพันธ์บลัดไลท์ หรือแวมไพร์ผู้มากเสน่ห์นั่นเอง แล้วก็ฟางอวี้หรืออวี่อวีี้ ลูกชายคนที่สามผู้งี่เง่าใสซื่อจนน่เป็นห่วง ซึ่งแท้จริงแล้วคือแมนติคอร่าสัตว์เลี้ยงคู่กายของจอมมารลูซิเฟอร์ และคนสุดท้ายคือลูกชายคนเล็กตระกูลฟางแล้วยังเป็นฝาแฝด(ที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย)ของอวี่อวี้ ฟางเต๋อ หรือเต่อเต๋อที่เป็นถึงจอมมารลูซิเฟอร์สุดโหดในคราบของเทวดาผู้บริสุทธิ นับฐานะการมีอำนาจในครอบครัวกันใหม่ จอมมารเต่อเต๋อ แม่ทัพใหญ่คนสนิทของจอมมารแม่ของพวกเขา สามีของแม่ทัพคนสนิทจอมมารพ่อของพวกเขา แม่ทำทหารกำลังรบใหญ่ฟางหยาง ฝ่ายสนับสนุนฟางหมิง และสุดท้ายสัตว์เลี้ยงอวี่อวี้ แล้วหลังจากภพสวรรค์และภพมารยุติสงครามกัน เต่อเต๋อก็พวกพวกเขากลับมาที่ภพมนุษย์เป็นคนธรรมดาอีกครั้ง
     

     รุ่งเช้า เมื่อเต่อเต๋อกับอวี่อวี้เดินเข้าไปในห้องเรียนพร้อมกันเหมือนปกติ แต่ที่แปลกไปคือพวกเขากลับโดนสายตาจากเหล่านักเรียนหญิงในห้องมองมาทางพวกเขาเป็ตาเดียว ก่อนจะหันไปซุบซิบแล้วหัวเราะเสียงเบาทั้งที่สายตายังคงไม่ละไปจากพวกเขาเลย 
     อวี่อวี้ที่เป็นคนขี้สงสัยจึงเดินไปถามเพื่อนชายกลุ่มหนึ่งในห้อง จึงได้คำตอบมาว่า
     "ก็พวกผู้ผู้หญิงน่ะสิ เห็นว่าช่วงนี้กำลังบ้าจับพวกผู้ชายในห้องเรียนมาจิ้นกับคนนู้นทีคนนี้ที ฉันล่ะจะบ้าตาย"
     "แล้วยังไงอ่ะ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย"
     "ก็ตอนนี้นายกับฟางเต๋อกำลังถูกพวกผู้หญิงงจับจิ้นให้กดกันเองอยู่น่ะสิเจ้าเซ่อเอ๊ย!"
     "อ๋อ ก็ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีผู้หญิงมาสารภาพรักกับเต่อเต๋อเลย เฮ้ย!ว่าไงนะ จิ้นให้ฉันกับเต่อเต๋อกดกันเองเนี่ยยะ!!"อวี่อวี้โวยวายหน้าแดง
     เต่อเต๋อมองภาพอวี่อวี้กำลังคุยเรื่องอะไรบางอย่างกับเพื่อนผู้ชายในห้องพร้อมกับมีใบหน้าที่แดงเถือก เต่อเต๋อมองภาพเหล่านั้นอย่างไม่พอใจ แถมช่วงนี้อวี่อวี้เอาแต่พูดคุยกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ แต่ไม่ค่อยคุยหรือเล่นกับเขาเหมือนเมื่อก่อนเลยมันทำใ้เขารู้สึก...ไม่สบอารมย์!
     ทางด้านเด็กผู้หญิงในห้องที่คอยสังเกตท่าทางเหล่านั้นอยู่ก็มีความคิดเป็นหน่งเดียวกันว่า...'ฟาอวี้กดฟางเต๋อ หรือว่าจะฟางเต๋อกดฟางอวี้ดีนะ'
     แล้วการเรียนก็๋ได้เริ่มขึ้น อาจารย์ที่สอนพวกเขาคือเสิ้นเอิ้นเตี้ยนซึ่งมาเป็นครูภาษาอักฤษธรรมดาแต่ความจริงไม่ธรรมดา เพราะเขาเป๋็นอัศวินผู้พิทักษ์นภาเช่นเดียวกับฟางหมิง พ่อของพวกเขานั่นเอง พอสวรรค์ได้ยกเลิกสงครามลง ชายหนุ่มก็ขอลงมาใช้ชีวิตคนธรรมดาเพื่อหานางในดวงใจมาแทน'วานวาน'หรือพี่ชายของเขาที่แต่งคอสเพลย์เป็นน้องไต่้หวันที่หักอกเขา เขาจึงออกตมหาหญิงสาวที่จะมาดามแผลในหัวใจของเขาให้ได้ และตอนนี้เขาคือครูประจำชั้นของอวี่อวี้และเต่อเต๋อ
     "เอาละทุกคน อีกสองอาทิตย์จะมีงานประจำปีของโรงเรียนช่วยกันคิดทีนะว่าห้องเราจะทำอะไรกันดี"หลังจากเสิ้นเอิ้นเตี้ยนพูดจบก็มีเสียงเสนอความคิดต่างๆดังขึ้นมากมาย
     "บ้านผีสิง"
     "ปาลูกโป่ง"
     "ร้านดูดวง"
     ทุกคนต่างออกความเห็นกันต่างๆนาๆยกเว้นเต่อเต๋อที่เอาแต่จ้องอวี่อวี้ ที่ยกมืออกความเห็นอย่างสนุกสนาน แล้วอยู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
     "ร้านกาแฟคู่รักค่ะ ให้พวกผู้ชายจับคู่กันคนนึงแต่งชุดพ่อบ้านอีกคนแต่งชุดเมด(=.,=)/"ผู้พูดคือเจ้าแม่วงการจิ้นวาย หรือก็คือหัวหน้าห้องของพวกเขานั่นเอง
     เสิ้นเอื้นเตี้ยนที่ได้ยินแบบนั้นก็ถงกับเหงื่อตก แล้วก็ถามเด็กสาวว่า
     "จะให้แต่พวกผู้ชายทำงานแบบนี้มันค่อนข้างไม่ยุติธรรมกับพวกเขานะสาวน้อย แล้วเธอกับพวกสาวๆในห้องจะทำอะไรกันล่ะ"
     "พวกหนูจะคอยอยู่เบื้องหลัง หรือคอยแอบถ่ายรูป เอ้ย!คอยสนับสนุนและทำอาหารอยู่เบื้องหลังเองค่ะ เพราะช่วงนี้กระแสyaoiกำลังบูม เพราะงั้นหนู่มั่นใจค่ะว่าห้องเราต้องมีรายได้ดีแน่นอนค่ะ"เมื่เธอพูดจบก็มีเสียงสนับสนุนจากพวกผู้หญิงในห้องเป็นกำลังเสริม ด้วยความที่จำนวนผู้หญิงในห้องมีมากกว่าคะแนนเสียงนี้จึงชนะไปทำให้พวกเขาต้องรับข้อเสนอนี้ไปอย่างช่วยไม่ได้


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ต่อ
บ้านตระกูลฟาง
     "เนี่ยพ่อดูสิไม่ยุติธรรมเลย ผมตัดสินใจล่ะ อาทิตย์หน้าผมจะไม่ไปโรงเรียน"อวี่อวี้พูดขึ้นขณะกำลังนั่งกินข้าวรวมกับทุกคนในครอบครัวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแล้วมือก็คว้าเนื้อชิ้นโตยัดเข้าปากแล้วเคี้ยวๆๆๆอย่างแรงเพื่อเป็นการละบายอารมย์
     "ฮะ ฮะ ไม่ได้นาอวี่อวี้ แค่นายต้องขายหน้าแต่งหญิงนิดหน่อยแล้วจับคู่กับเต่อเต๋อไม่เห็นจำเป็นต้องหยุดเรียนเลยนี่นา"ฟางหมิงพูดขำๆ
     "จำเป็นสิ ก็เต่อเต๋อน่ะ แต่งหญิงสวยกว่ามตั้งเยอะ ทำไมพวกเธอถงไม่ให้เต่อเต๋อแต่งไปล่ะ"
     พรวด!!!!
     ทันทีที่เขาพูดจบอยู่ๆเต่อเต๋อที่กำลังกินข้าวอย่างเรียบร้อยอย่างคนได้รับการอบรมย์อย่างดี อยู่ๆก็พ้นข้าวออกมาเต็มโต๊ะ
     "อี๋~เต่อเต๋อสกปรกอ่ะ"อวี่อวี้พูดขึ้นแล้วปัดเศษอาหารที่ถูกพ้อนออกมาเลอะตามตัวเขา
     "อย่าพูดเรื่องนั้นอีก"เต่อเต๋อพูดเสียงนิ่ง แต่ถลึกตามมองอวี่อวี้เขม็งประมาณว่า'ถ้านายพูดถึงเรื่องนั่นอีกฉันจะจับนายยัดหมกส้วมซะ!'
     อวี่อวี้ที่เ็นแบบนั้นก็ได้หดคอย่างกลัวๆเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นๆในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
     ปิ๊งป๊อง~เสียงกริ่งหน้ประตูบ้าน ซึ่งฟางหมิงหรือพ่อเป็นคนออกไปเปิดประตู เมื่อรู้ว่าใครมากดกริ่ง ฟางหมิงก็ถมด้วยรอยยิ้มบริสุทธิซ่่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขา
     "ไง เอิ้นเตี้ยยน ไม่ได้เจอกันนานเลย มีธุระอะไรงั้นเหรอ"
     "สวัสดีครับพี่ฟางหมิง ไม่ได้เจอกันนาน เอ่อ...มมีธุระกับวานวาน เอ้ย!Muriceน่ะครับ"
     เสิ้นเอิ้นเตี้ยนพูดแล้วยกมือเกาหัวแก้มอย่างคนประหม่าเล็กน้อย ฟางหมิงมองกิริยานั้นอย่างสงสัย แต่ก็หันไปเรียกฟางเหมิงให้ ฟางเหมิงเดินมาตามที่คนเป็นพ่อเรียก เขาเดินสวนกับฟางหมิงที่เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ แล้วพอเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าประตูก็ชะงัก 
     "มีธุระอะไร"ฟางเหมิงถามเสียงห้วน เสิ้นเอิ้นเตี้ยนที่เห็นท่างทางแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกประหม่า
     "เอ่อ...นายคง รู้เรื่องห้องของน้องนายที่จะทำร้านกาแฟคู่รักแล้วสินะ"
     "อืม แล้วไง"ฟางเหมิงขมวดคิ้ว เมื่อเสิ้นเอิ้นเตี้ยนยังพิรี้พิไรไม่ยอมพูดเข้าเรื่องซักที
     "ฉันอยากให้นายเข้าร่วมงานนี้ด้วย"พูดถึงตรงนี่ มือไม้ของเสิ้นเอิ้นเตี้ยนก็เริ่มอยู่ไม่สุข เกาหัวบ้าง เกาคางบ้าง เกาแก้มบ้าง เหงื่อเริ่มไหลเต็มหน้าผาก(แม้หน้าจะนิ่งก็ตาม)
     "ทำไม?"ฟางเหมิงถามอีกครั้ง
     "คือไม่ใช่เข้าร่วมแบบนั้น! คืออยากให้นายช่วยแต่งหน้าแล้วก็ออกแบบเครื่องแต่งตัวของพวกเด็กๆห้องผมให้หน่อย เห็นฟางอวี้บอกนายเก่งเรื่องนี่"เสิ้งเอิ้นเตี้ยนก้มหน้าแล้วพูดเสียงอุบอิบ แต่ฟางเหมิงก็ยังได้ยินอยู่ดี
     "หืม ถ้าเรื่องไปที่งานล่ะก็ต้องไปอยู่แล้วแหละ ฉันจะไปดูเต่อเต๋อกับอวี่อวี้ พ่อกับแม่แล้วก็ฟางหยางก็จะไป"ฟงเหมิงพูด แต่สสายตาจ้องงที่เสิ้นเอิ้นเตี้ยนอยู่ตลอดอย่างไม่ไว้ใจ ถึงฟางเหมิงจะพูดวางท่าไปงั้น แต่ความหมายคือจะไปอยู่ดีนั้นแหละ
     "แล้วเรื่องแต่งหน้า กับออกแบบเสื้อผ้าล่ะ"เขาพูดถามฟางเหมิงอีกครั้ง
     "อืม...ก็ได้ ยังไงช่วงนี้ฉันก็ว่าง....อุ๊บ!"
     ขณะที่ฟางเหมิงกำลังพูดอยู่ก็ถูกเสิ้นเอิ้นเตี้ยนรวบตัวเข้าไปจูบอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน แต่ซักพักเมื่อเริ่มสติได้เขาก็ทุบที่อกแกร่งของคนตรงหน้าไปมาอย่างแรงเพื่อให้ออกไปจากตัวเขา
     เสิ้นเอิ้นเตี้ยนที่รู้สึกตัว เขาก็รีบเด้งตัวออกจากร่างของฟางเหมิงอย่างรวดเร็ว แล้วยิ้มเก้อๆให้กับชายหนุ่ม แต่ฟางเหมิงก็ได้แต่มองหน้าร่างสูงอึ้งๆ
     "คือ ขอบใจนะ ขอบใจมากจริงๆ คือฉันดีใจมากน่ะ...เอ่อ คือ ขอโทษนะ"พูดจบเสิ้่นเอิ้นเตี้ยนก็รีบกางปีกบินหนีขึ้นฟ้าไปทันที
     "อะไรของมันฟะ!!"ฟางเหมิงบ่นขึ้นทั้งยังมองตามร่างนั้นไปพร้อมกับยกแขนเสื้อเช็ดปากไปมาก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะกินข้าวพร้อมทุกคน
     ทางด้านเสิ้นเอิ้นเตียนที่กำลังบินอยูบนฟ้า เขาค่อยๆยกมือขึ้นสัมผัสที่ริมฝีปากของตัวเอง รสหวานเล็กๆยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก ความรู้สึกนุ่นอุ่นยังติดตรึงในความรู้สึก ชายหนุ่มลองย้อนกลับคิดถึงสาเหตุว่า ทำไมเขาถึงเผลอไปจูบเด็กหนุ่ม(?)เข้า 
     ตอนที่ร่างโปร่งพูด เขาเผลอเห็นใบหน้าของวานวาน และสาวน้อยพระแม่มาเรีย รักแรกและรักที่สองของเขา ซ้อนทับใบหน้าของเด็กหนุ่ม นั่นคือเขา ไม่ใช่การแปลงร่าง มันเป็นใบหน้าที่่แท้จริงของเด็กหนุ่ม หญิงสาวมากมายสวยแค่ไหนก็ไม่มีใครมาทำให้จิตใจเขาสั่นคลอนได้ แต่ฟางเหมิง ไม่ว่าจะเป็นวานวานหรือสาวพระแม่มาเรียต่างก็ทำให้ใจเขาสั่นได้ทั้งนั้น เพราะงั้นฟางเหมิงคือคนที่ทำให้จิตใจเขาหวั่นไหวได้...เพียงคนเดียว






วันงานโรงเรียน
     "โหย ฟางอวี้ นายแต่งหญิงก็น่ารักดี่นี่หว่า"
     "นายก็เหมือนกันแหละ น่ารักไม่เบาเลยน้า หวา!อย่าเปิดกระโปรงดิ!!"
     หมับ! ขณะที่อวี่อวี้กำลังคุยเล่นกับเพื่อนๆอยู่นั้นเอง เต่อเต๋อที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จ ก็รีบเดินมาดึงแขนของอวี่อวี้กลับมาทันที
     " เต่อเต๋อ นายเป็นอะไรของนายเนี่ย"อวี่อวี้ถามอย่างไม่เข้าใจ เต่อเต๋อหันกลับมาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แอบแฝงความหงุดหงิดไม่น้อย
     "นายจับคุ่กับแันไม่ใช่รึไง เพราะงั้นอย่าไปยุ่งกับคนอื่น"
     "ไม่เห็นเกี่ยวเลย ฉันแค่คุยเล่นๆ..."ขณะที่อวี่อวี้กำลังจะพูดต่อ ก้อมีเสียงหนึ่งแทรกขึ้น
     "ฟางเต๋อ ฟางอวี้ เจอพอดี มาๆ มาเล่นเกมส์กันก่อนจะเปิดร้านกัน"เจ้าแม่วงการวายเดินเข้ามาดึงตัวพวกเขา ให้เข้าไปในร้านที่จัดแต่งไว้อย่างงดงาม ที่นั่นมีพวกเพื่อนๆในห้องของพวกเขายืนรวมตัวกันอยู่กลางห้อง
     "เอาล่ะมากันครบแล้ว มาเริ่มเกมส์กันเล้ย!"
     "เย้!!!~/เย..."เสียงแรกเป็นเสียงนักเรียนหญิงที่ดูท่ากระตือลือล้นอย่างมากที่จะได้เล่นเกมส์นี่ เสียงที่สองคือเสียงนักเรียนชายที่ตอบรับไปงั้นๆ
     "เอ๋ เกมส์อะไรงั้นเหรอ"อวี่อวี้ยกมือถามขึ้นอย่างสงสัย เจ้าแม่วงกายวายจึงหันมาตอบด้วยบหน้าที่ฉีกยิ้มกว้าง
     "เกมส์ฉักกระดาษไปเรื่อยๆด้วยปากยังไงล่าาาาเย้!!!"
     "เย้!!!(นร.ญ)/ห๊า!!!(นร.ช)"เสียงนักเรียนชายร้องขึ้นพร้อมกัน
     "เอ๊าทุกคนเข้าแถวห้าแถม แถวไหนฉักกระดาษครบทุกคนแล้วแถวนั้นไม่ต้องทำกิจกรรมหน้าร้าน!!!"หลังจากเสียงของสาวหัวหน้าห้องพูดจบ ทุกคนก็รีบจัดแถวแล้วเริ่มฉีกกระดาษกนอย่างรวดเร็ว 
     แควก แควก แควก เสียงฉีกกระดาษดังต่อเนื่องไปเรื่อยๆจะมาถึงท้ายแถวที่อวี่อวี้ยืนอยู่หน้าเต่อเต๋อ พอกระดาษส่งมาถึงพวกเขา อวี่อวี้ที่เห็นกระดาษที่อยู่ในปากเพื่อนคนข้างหน้าก็ตกใจ เพระมันมีขนาดความกว้างไม่ถึง10เซนฯเท่านั้น เขาหันไปมองรอบๆ คนอื่นก็ไกล้จะมาถึงเท่าพวกเขาแล้ว'ไม่ยอมแพ้หรอก!'
     แควกเขาคาบกระดาษนี้นแล้วฉีกออก แต่ผิดพลาด พอกระดาษนั้นขาดออก มันกลับออกมาเป็นส่วนน้อย ซึ่งเหลือแค่5เซนเท่านั้น เขาหันไปทางเต่อเต๋อด้วยใบหน้าซีดเผือด
     เต่อเต๋อมองเขานิ่งๆ แล้วใช้สองมือจับหน้าเขาไว้ แล้วดึงหน้าอวี่อวี้เข้าไปไกล้หน้าของตัวแล้ว จนอวี่อวี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นโคโลนอ่อนจากตัวของร่างสูง พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหน้า กระดาษที่มีขนาดสั้นมาก ทำให้ริมฝีปากของเขาสัมผัสกัน ซึ่งเต่อเต๋อก็ใช้โอกาศนี้กดริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากอิ่มของร่างบางอยู่างรวดเร็วแต่หนักแน่น ก่อนจะผงะออกอย่างเนียนๆเหมือนเขาแค่ฉีกกระดาษจริง และ แควก~ เสียงฉีกกระดาษเรียกสติของอวี่อวี้ให้กลับมอีกครั้ง เขาเงยหน้ามองใบหน้าร่างสูงที่มีสีหน้านิ่งเรียบเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ในปากยังคาบเศษเสี้ยวของกระดาษที่ส่วนหนึ่งยังคงอยู่ในปากของเขาอยู่เลย
     "อ่ะ อ่ะ เต่อเต๋อนาย"อวี่อวี้ถึงกับลืมภาษาไปชั่งขณะพูดไม่ออก
     พวกเพื่อนในห้องต่างหยุดการกระทำทั้งหมด แล้วมองมทางพวกเขาเป็นตาเดียว
     เต่อเต๋อละสายตาจากอวี่อวี้มองไปรอบๆ แล้วเอื่อมมือมาจูงมือเขาเดินไปทางที่เด็กสาวหัวหน้ห้องหรือเจ้าแม่วงการวายยืนอยู่
     เมื่อเดินมาหยุดที่ตรงหน้าของเธอ เต่อเต๋อก็คายเศษกระดาษลงบนฝ่ามืของเขา แล้วยื่นไปตรงหน้าของเธอ พร้อมกับพูดเสียงนิ่งว่า
     "กลุ่มของฉันเสร็จก่อน เพราะงั้นจะไปทำงานเบื้องหลังนะ จะเป็นสต๊าฟ"
     "อ...อืม"เธอตอบรับอึ้งๆ 
     แต่แล้วเสียงโห่ร้องที่ดังมาจากกลุ่มที่เต่อเต๋ออยู่ก็เรียกสติของเธอให้กลับมาอีกครั้ง เธอมองเต่อเต๋อเดินหน่านิ่งจูงมืออวี่อวี้ที่หน้าแดงเถือกก้มหน้าเดินตามร่างสูงกลับกลุ่มของตัวเองต้อยๆ เธอมองภาพนั้นก่อนจะก้มหน้าแสยะยิ้มหื่นๆแล้วพึมพำกับตัวเองเสียงเบา
     "ห หึ หึ ฟางเต๋อ ฟางอวี้ พวกนายมาอยู่ใน คอลเล็กชั่น yaoi classของฉันซะเถอ"
     แล้วเธอก็กดกล้องดิจิทัลขนาดจิ๋วที่อยู่ในมือของเธอ แล้วเปิดภาพที่เธอเพิิ่งถ่ายเก็บช้อตเด็ดไว้ได้
     เมื่อเธอเปิดกล้องจะดูภาพนั่น เมื่อเธอเปิดขึ้น ภาพที่เธอเห็นคือ 
     'บรึ้ม!'
     "อร้ายยยยย!!!กล้องฉานนนนน!!!!"ขณะที่เธอกำลังเปิดดูภาพ กล้องของเธอกระระเบิดขึ้นต่อหน้าต่อตาคามือของเธอ เธอกลี้ดร้องลั่น เรียกความสนใจจากคนในห้อง ไม่เว้นแม้กระทั่งเต่อเต๋อที่กำลังยืนปลอบเรียกขวัญอวี่อวี้ให้กลับมา เขามองไปที่กล้องในมือของเด็กสาวที่ตอนนี้พังยับเยินไม่มีชิ้นดี แล้วเผยยิ้มจอมารขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะหับกลับไปส่งยิ้มอ่อนโยนโอ๋ปลอบอวี่อวี้ต่อ โดยไม่หันไปสนใจเด็กสาวที่ทำหน้าราวกับโลกทั้งใบล้มสลายลงตรงหน้าอีกเลย
     

     #นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จงอย่าจิ้นใครมั่วซั้ว ไม่งั้นบางทีคุณอาจเผลอไปจิ้่นจอมมารสุดโหดจนทำให้เขาไม่พอใจ และทำให้คุณเสียใจไปตลอดชีวิตเลย5555+ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น