วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

สองเกรียนป่วนเกมส์ ตอนที่5 เด็กชาย ปริศนา

หลังจากจัดการพวกปิศาจกินฝันได้ พวกเราก็ตั้งแคมป์นอนในป่าคืนหนึ่งโดยอาวีย์บอกว่ารุ่งเช้าเขาจะพาเราไปที่อาณาจักร์ของเขาที่อยู่อีกไม่ไกล้ไม่ไกลนี้(หราาาาา?)แถมตอนกลางคืนขณะที่เรากำลังเล่านิทานร้อยเรื่องรอบกองไฟได้ถึงเรื่องที่50ก็มีแหวนสองวงหล่นใส่หัวของอาวีย์พอดี พอเคียวซึมิสัมผัสไปที่แหวน แหวนก็เรืองแสงแล้วปรากฎเป็นเจ้าชายลูค และเจ้าชายเมดี้ ลูคพอตื่นขึ้นมาก็ขอบคุณพวกเราพอเป็นพิธีและขอติดตามพวกเราไปด้วย ส่วนเมดี้....ผมเกลียดเขาอ่ะ เขาพูดมากน่ารำคาญชะมัด แถมพอผมชวนเขากับลูคเข้าฮาเร็มเขายังปฏิเสธแล้วหันไปหม้อใส่เจ้ซะอีก ถ้าโดนเจฟฆ่า ผมจะสมน้ำหน้าเขาจริงๆ
     




อาณาจักรอัลสโตเรีย




     ตอนนี้พวกเราก็ได้มาอยู่ที่อณาจักร์อัลโตเรียของอาวีย์แล้ว ซึ่งใช่เวลาไม่เยอะกว่าที่คิด(นาวิ แกพาพวกฉันหลงสินะ)เมื่อเข้ามาในวังผมสำรวจรอบๆบริเวณ ตลอดทางที่พวกเราเดินผ่านผู้คนในวังต่างมีสีหน้าที่ยินดีที่ได้พบกับเจ้าชายของพวกเขาอีกครั้ง หรือบางคนถึงขนาดเข้ามาก้มหัวแล้วพูดขอบคุณพวกเราอย่างสุดซึ้ง ดูเหมือนอาวีย์จะเป็นที่รักของคนในวังอยู่นะ
     แบบนี้สิคุณแฟนที่ดีของผม น่ารัก นิสัย เป็นที่รักของคนรอบข้าง ส่วนความเป็นแม่บ้านแม่เรื่อนกันความอ่อนหวานหรืออื่นๆอีกมากมายค่อยไปหารวบรวมจากเจ้าชายคนอื่นละกัน
     

     "เอ่อ ขอโทษนะ แต่ว่าข้าต้องขอตัวไปพบพระบิดาของข้าก่อน"เมื่อเดินไปได้สักพักก็มีชายชราคนหนึ่งเข้ามากระซิบพูดกับอาวีย์ อาวีย์หันกลับมาพูดกับพวกเราก่อนที่เขาจะวิ่งออกไป
     "อืม เขาดูรีบรอรจังเลยนะครับเนี่ย"ลูคพูด
     "สงสัยคงมีเรื่องสำคัญแน่ๆ แต่ก็ดีแลว ผมจะได้อยู่กับฮันนี่ อ๊ะฮันนี่จะไปไหนครับนั่น"เมดี้กำลังพร่ำเพ้อเหมือนทุกครั้ง ปล่อยเขาไปเถอะ
     "ป่ะครับเจ้ นาวิ ลูคคุง ไปหาอะไรกินกันเถอะ"ผมหันไปชวนทุกคน(ยกเว้นเมดี้นะ)โดยเฉพาะลูค ที่ผมพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและทำตาเยิ้มๆเพื่อเพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ให้กับตัวเอง ลูคที่เห็นแบบนั้นก็ทำหน้าซีดและกลืนน้ำลายลงคอแต่เพราะเห็นว่าไปกันหลายคน เขาจึงพยักหน้าตอบรับเบาๆ



     ตลาด...
     

     หลง....บอกได้คำเดียวเลย ผมหลง!!!!(O[  ]O)
     พระเจ้าครับ ผมหลง เกิดอะไรขึ้นกับผมเนี้ย!!! ผมก็เดินไปพร้อมกับทุกคนเหมือนปกตินะ แต่พอผมหันไปดูร้านขายของที่คล้ายๆร้านขายหนังสือแค่แปบเดียว แปบเดียวจริงๆนะ(ครึ่งชั่วโมงเอง?)พอหันกลับมาอีกที ทุกคนก็หายไปแล้วอ่ะ 
     ผมเดินแล้วมองไปรอบๆบริเวณเพื่อมองหาทุกคน แต่เดินมาได้สักพักใหญ่แล้ว ก็ยังไไม่เห็นแม้แต่เงาของเคียวซึมิหรือคนอื่นๆเลย คงเพราะผมเดินอยู่แถวนี้มาได้สักพักแล้ว พวกคนในเมืองจึงเริ่มหันมามองผมแล้วหันไปซุบซิบกันเบาๆ
     นี่ดูสิคนนั้นเขาเดินอยู่แบบนี้มานานแล้วนะ
     นั้นสิ เขาจะเป็นอะไรรึเปล่า
     ไม่เคยเห็นหน้าเลย คนแปลกหน้างั้นเหรอ
     พวกซุ่มก่อการร้ายหรือเปล่า
     แต่งตัวแปลกๆนะ
     .
     .
     .
     และอีกมากมายที่พวกเขาจะเม้าท์มอยเกี่ยวกับผมได้
     



     ผมมีอะไรจะบอกล่ะ...ผม...ไม่ชอบอยู่คนเดียว แล้วยิ่งต้องมาอยู่คนเดียวในดงคนที่กำลังนินทาผมอยู่ด้วยแล้ว มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องสมัยก่อนที่จะเจอกับเคียวซึมิเลย...ตอนนั้น ผมก็ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้แหละ 
     เพระว่าผมเป็นหนุ่มวาย...เป็นผู้ชายที่ชอบการืตูนแนวBLทำให้พวกผู้ชายต่างรังเกียจผม พวกนี้ผมเข้าใจเขาอยู่นะแต่บางคนก็เข้าหาผมเพื่อหวังให้ผมฟันประตูหลังเขา หรือบางคนหวังฟันประตูหลังผม อันนี้ผมรับไม่ได้จริงๆผมต่อยหลับหมดทุกคนเลย(ยกเว้นพวกที่เป็นเคะนะ ผมแค่แนะนำเขาให้หาคนที่ดีกว่าผมดีกว่า) ส่วนพวกผู้หญิงบ้างก็มองผมด้วยสายตาสงสารบ้าง เวทนาบ้าง หรือบางคนถึงขั้นทำท่าทางรังเกียจผมอย่าชัดเจน(เธอระแวงว่าผมจะไปแย่งพวกผู้ชายของพวกเธอน่ะนะ)
     สุดท้าย ผมเลยเลืกที่จะอยู่คนเดียว จนกระทั่งได้เจอกับเคียวซึมิ เธอไม่สนว่าผมจะเป็นอะไร เธอไม่เคยทำท่าทางรังเกียจผมหรือเวทนาผม นี้แหละมั่ง ที่ทำให้ผมเข้าไปขอเป็นเพื่อนกับเธอในวันนั้น

     ผมค่อยๆทรุดตัวนั่งลงกับพื้นโดยใช้แขนทั้งสองข้างกอดเข่าตัวเองแล้วเอาหน้าซุกลงไป
   

     เหงา เหงาชะมัดเลย เจ้ครับ...
     


     
     จึก จึก
     "นี่ๆ พี่ชาย พี่ชายหลงทางกับคุณพ่อคุณแม่เหรอ"
     ขณะทีผมกำลังนั่งดราม่าเป็นพระเอกมิวสิควีดีโออยู่นั้น ก็มีแรงสะกิดเบาๆที่ข้างๆแขน แล้วเมื่อผมเยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นเข้ากับ ใบหน้าหน้ารักน่าชัง(น่าจับกด)ของเด็กคนหนึ่งที่ดูท่าทาง เขาน่าจะมีอายุสัก9-10ขวบได้ เส้นผมของเขาเป็นสีทองหยักศก ดวงตากลมโตเป็นสีน้ำเงินสวยราวกับสีของน้ำทะเลของเขาจ้องมาทางผมด้วยความฉงน...
     "นี่ๆตกลงพี่ชายหลงทางเหรอ"เขาถามย้ำอีกครั้ง
     "งือ...อ อืม พี่หลงทางจริงๆแหละ แต่พี่หลงทางกับเพื่อนน่ะ ไม่ใช่คุณพ่อกับคุณแม่หรอก"ผมหันไปตอบแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มลงใช้มือยันเข่าเพื่อให้หน้าอยู่ในระดับเดียวกับเด็กคนนีั้น
     "โหจริงดิ โตขนาดนี้ พี่ยังหลงทางได้อีกงั้นเหรอ งี่เงาชะมัด"เด็กชายพูดด้วยใบหน้าอึ้งๆในตอนแรก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าที่โคตรจะกวนอวัยวะเบื้องล่างของผมจริงๆ
     อ...ไอ้เด็ก เป-รด-เอ๊ย!!(เด็กเปรตนั่นเอง)แต่ก็ไม่สามรถพูดออกไปได้ ทำได้เพียงแค่ยิ้มรับ แล้วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจใสซื่อรักเด็กเหมือนนางงามเท่านั้น
     "ฮะ ฮะ ฮะ นั่นสิ พี่ชายนี้งี่เง่าจังเลยเนอะ ว่าแต่น้องชายชื่ออะไรงั้นเหรอ"
     "ผมชื่อว่าเอมิล แล้วพี่ชายงี่เง่าจะถามทำไมล่ะ"
     "เอ่ม..พี่ไม่ได้ชื่อว่าพี่ชยงี่เง่านะ พี่ชื่อว่ายูโซ ว่าแต่ เอมิลคุงช่วยบอกทางกลับปราสาทของเจ้าชายอาวีย์ให้พี่ชายหน่อยได้มั้ยครับ"อดทนไว้ยูโซ นี้แค่เด็กนะ อดทนไว้ ยุบหนอ พองหนอ ฆ่าหนอ กระทืบเด็กหนอ เอ๊ย!ไม่ใช่ล่ะ
     "หืม ไปปราสาทของเจ้าชายอาวีย์เหรอ พี่ชายเป็นเพื่อนกับเจ้าชายอาวีย์เหรอ หรือว่า พี่เป็นคนที่ช่วยปลุกเจ้าชายอาวีย์ขึ้นมาน่ะครับ"เอมิลหันขวับมาถามอย่างรวดเร็ว
     "อืม จะว่าช่วยมั้ยเหรอ ต้้องบอกว่าเพื่อนพี่อีกคนต่างหากล่ะที่เป็นคนปลุกเจ้าชายอาวีย์ได้น่ะ"
     "แล้วตอนนี้พร่คนนั้นเขอยู่ที่ไหนงั้นเหรอครับ"เอมิลถามด้วยท่าทางตื่นเต้นและอยากรูอยากเห็น
     "อยู่ที่ไหนงั้นเหรอ ก็คงจะกลับปราสาทไปแล้วล่ะมั้ง..."
     "งั้นเราไปหาเขากับเถอะ"เอมิลพูดตัดบทก่อนจะดึงแขนผมแล้วพาออกวิ่งอย่างรวดเร็วไปทางที่น่าจะเป็นปราสาท
     "เฮ๊ย เอมิลคุงเดี๋ยว เดี๋ยว เดี๊ยววววววว!!!!"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น